เฟรมผ้าใบที่ไม่ได้จัดแสดง โดย รสสุคนธ์ สารทอง
คำนิยม
เรื่องสั้น “เฟรมผ้าใบที่ไม่ได้จัดแสดง” โดย รสสุคนธ์ สารทอง เป็นเรื่องสั้นซึ่งนำเสนอเนื้อสารที่เข้มข้นโดยกระตุ้นให้ผู้อ่านได้ตระหนักและตื่นรู้ว่า ธรรมชาตินั้นมีความงามและความยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์ หากมนุษย์ยังมุ่งร้ายทำลายธรรมชาติ ผลกระทบที่น่ากลัวและรุนแรงจะย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์เอง
แม้จะเป็นแนวคิดที่รับรู้กันโดยทั่วไป แต่ผู้เขียนนำเสนอผ่านการประกอบเรื่องสั้นที่มีโครงเรื่องน่าสนใจ ชวนติดตาม ผนวกกับวิธีการเล่าเรื่อง ผ่านตัวตนและการกระทำของตัวละครสำคัญโดยเชื่อมโยงอย่างแยบยลต่อมุมมองต่อธรรมชาติ ปัญหาและการทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่นำเสนอให้เห็นภาพเล็กภาพน้อย ซึ่งประกอบขึ้นเป็นภาพใหญ่ในเฟรมผ้าใบของศิลปิน เพื่อสื่อความหมายโดยรวม จึงนับว่าเป็นเรื่องสั้นที่เข้มข้นทั้งแนวคิดและศิลปะการประพันธ์ที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน สมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศ รางวัลลูกโลกสีเขียว ประจำปี 2568
รศ.ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์
(รองประธานกรรมการประเมินคุณค่าผลงาน รางวัลลูกโลกสีเขียว ประเภทงานเขียน)
เฟรมผ้าใบที่ไม่ได้จัดแสดง
[1]
“บางทีโลกอาจมีเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเรา”
...
ถ้าเป็นช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมล่ะก็ หาตัวเธอได้ไม่ยากหรอก ไม่ป่าผืนใดก็ผืนหนึ่ง เธอจะอยู่ที่นั่นเสมอ เธอเป็นมนุษย์ภาคพื้นอุทยานแห่งชาติตัวยง ไม่ว่าจะเข้าป่าไปในรูปแบบใด จะเป็นการเดินป่า ตั้งแคมป์ค้างคืน หรือเพียงเดินทางไปสูดอากาศเพื่อผ่อนคลาย สูดกลิ่นอายอาบป่า ก็ชวนให้เธอจินตนาการราวกับกำลังเป็นหนึ่งในคณะเดินทางของนวนิยายผจญภัยที่มีความยาวมากที่สุดในโลกเรื่องหนึ่งอยู่เสมอ
นั่นล่ะเธอ มีนา หญิงสาวที่ใช้ชีวิตกึ่งจริงกึ่งฝันไปกับหนังสือและการเดินทาง
???????บนถนนที่เธอขับรถผ่าน ท่ามกลางพายุฝนที่กระหน่ำจนเส้นทางเล็กๆ ซึ่งลัดเลาะไปตามแนวป่าขาวโพลนจนมองอะไรไม่เห็น เรื่องเล่าแห่งพงไพรและตำนานเกี่ยวกับผืนป่า คือสิ่งที่เธอสนใจอย่างบ้าคลั่ง นั่นทำให้เธอกลับมาสู่ถนนสายนี้อีกครั้ง หลังจากเพิ่งจบคอสเวิร์คในรายวิชาคติชนภาคสนาม
???????หลังสัญญาณการติดต่อจากภายนอกขาดหายไประยะหนึ่ง ป้ายบอกทางก็เริ่มเผยให้เห็น ชะแล คุ้มแดนไกล ทุ่งใหญ่นเรศวร หมู่บ้านทุ่งนางครวญ บ้านทุ่งเสือโทน ห้วยเสือ นั่นบ่งบอกว่าเธอเริ่มเข้าใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงูแล้ว
???????กลิ่นอายของพื้นที่ ภูมิประเทศ และผู้คนในท้องถิ่นแถบนี้ดึงดูดเธอเข้ามา เรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาวที่ฝ่ายชายได้พลัดพรากจากกันตลอดกาล จนเป็นเหตุให้ฝ่ายหญิงร่ำไห้คร่ำครวญอยู่ที่น้ำตก จนชาวบ้านเรียกกันต่อๆ มาว่าน้ำตกนางครวญ ที่มาของชะแลอันเป็นชื่อของต้นไม้ซึ่งขึ้นอยู่บริเวณน้ำผุดที่เป็นต้นน้ำของผืนป่ามาสู่ลำคลองงู ที่เป็นชื่อของลำห้วยสลับซับซ้อน กลางผืนป่า กัดเซาะผ่านเขาหินปูน จนกลายเป็นโพรงธรรมชาติขนาดใหญ่หลายแห่ง บางแห่งก็เกิดเป็นหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตาที่ดึงดูดนักล่องไพรเข้ามาที่นี่
???????มีนาคือหนึ่งในนั้น หญิงสาวนักเดินทางที่สัญจรเข้ามาจนได้พบกับน่อมะไหง่
???????น่อมะไหง่ เป็นชายชาวกะเหรี่ยงที่มีอายุมากกว่าเธอห้าปี สื่อสารได้คล่องกว่าคนอื่นๆ เขาเคยพาเธอไปพบกับผู้คนต่างๆ รวมทั้งไปดูสถานที่ พิธีกรรมสำคัญของชาวกะเหรี่ยงเมื่อครั้งเดินทางมาลงภาคสนาม นั่นทำให้เธอตกหลุมรักหมู่บ้านคลิตี้ของน่อมะไหง่ หมู่บ้านที่ใครๆ เรียกว่าทุ่งเสือโทน
“ความเป็นอยู่ของเราทุกอย่างมีความเชื่อสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับธรรมชาติทั้งหมด การรักและเคารพในธรรมชาติก็ด้วย” น่อมะไหง่บอก
???????“รวมทั้งชื่อของน่อมะไหง่ด้วยไหม” มีนาถาม
???????ชายชาวกะเหรี่ยงพยักหน้า
???????“แล้วมันแปลว่าอะไรคะ”
???????“น่อมะไหง่-ต้นไม้สีแดง”
???????เธอพูดทวนซ้ำตามน่อมะไหง่เบา ๆ ราวรำพึงกับตัวเอง ส่วนเป็นต้นอะไรนั้นเธอไม่ทันได้ถาม
???????การมาของเธอคราวนี้ไม่ได้เดินทางมาเพื่อเก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์เช่นครั้งก่อน ครั้งนี้ดูเหมือนเธอเป็นเพียงหญิงสาวที่ขับรถเข้ามาในป่า เนื่องจากทอดอาลัยเบื่อหน่ายกับบางสิ่งมาอย่างหนัก
???????“แล้วจะมาอยู่กี่ปีเหรอ” น่อมะไหง่ถามปนอมยิ้ม
???????“บ้า! เกินไปมั้ง” มีนาทุบน่อมะไหง่ไปเต็มแรง เพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอาย เธอดีใจที่ได้พบกับ น่อมะไหง่ที่นี่อีกครั้ง
???????“แล้วนั่นขนมาทำอะไร” น่อมะไหง่มองไปยังท้ายรถกระบะ ที่เต็มไปด้วยขาตั้งวาดภาพ ถังสี อุปกรณ์ต่างๆ นานา และเฟรมผ้าใบอีกหลายสิบเฟรม
???????มีนายิ้มแต่ไม่ได้ตอบ น่อมะไหง่พาเธอไปที่พักและทานข้าวมื้อค่ำกันที่บ้านริมห้วยของเขา
???????ที่หมู่บ้านทุ่งเสือโทน ตำนานเล่าว่าในสมัยก่อนทุ่งแห่งนี้มีเสืออาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่มีเสือโทนตัวใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง มีรอยเท้าขนาดใหญ่เท่าช้าง และออกหากินครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่บริเวณทุ่งใหญ่นเรศวร ลำคลองงู แม่น้ำแควใหญ่ ไปจนถึงแม่น้ำแควน้อย หากใครจะมาทุ่งเสือโทน จะต้องเดินเท้าค้างคืนที่ห้วยเสือหนึ่งคืน และรุ่งเช้าต้องเดินเท้าต่ออีกราวครึ่งค่อนวัน น่อมะไหง่บอกเธอว่าผู้คนที่ทุ่งแห่งนี้ดำรงชีวิตด้วยการหาอาหารจากป่าและใช้สมุนไพรในการรักษาโรค และการเดินทางสู่ผืนป่าแถบชายแดนฝั่งตะวันตกแห่งนี้ ผู้ผ่านทางล้วนต้องยอมจำนนต่อสภาพอากาศซึ่งไม่อาจคาดเดา
???????มื้อค่ำที่บ้านของน่อมะไหง่วันนี้ น่อพอฉ่องซูแม่ของน่อมะไหง่ตั้งใจทำมาหลายเมนูเป็นพิเศษ ทุกคนดีใจเมื่อเห็นว่ามีนากลับมาเยี่ยมที่นี่อีกครั้ง
???????“จำรสชาติได้ไหม นี่เซอย่าเด่าไกกะดุ”
???????“จำได้สิ นั่นต้มปลาใส่ผักกูด” มีนากล่าวพร้อมแปลเมนูที่น่อมะไหง่พูดภาษากะเหรี่ยงเป็นภาษาไทยตามหลังทุกจาน “เดี๋ยวมีนาจะกินให้เกลี้ยงจนลุกไม่ไหวเลยคอยดู”
???????“เชอเง่ซาโท่ง” “น้ำพริก!”
???????“ชะดุเบอะ” “หมกผัก!”
???????“เชอผ่าดู” “แกงไก่ใส่หยวกกล้วย!” จานสุดท้ายน่อมะไหง่ยกขึ้นโดยไม่ทันได้พูด
???????“บือเค๊าะ ข้าวไร่” มีนาพูดภาษากะเหรี่ยงออกไปพร้อมกับเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน บรรยากาศกลางวงข้าวของค่ำคืนนั้นเป็นไปอย่างสุขสันต์และงดงาม
???????“มีนามาชวนน่อมะไหง่ไปเดินทางด้วยกัน” มีนาพูดขึ้นหลังมื้อค่ำเรียบร้อย
???????“เหรอ ที่ไหน” น่อมะไหง่ถามขึ้น
???????“ป่า”
???????“ป่า!” น่อมะไหง่ย้ำคำเพื่อให้แน่ใจ “พูดเป็นเล่นน่า ที่นี่ก็ป่า น่อมะไหง่ก็อยู่กับป่ามาแล้วทั้งชีวิต มีนาจะพาน่อมะไหง่ออกจากป่าเพื่อไปเที่ยวป่า?”
???????“มันไม่เหมือนกัน” มีนาเน้นเสียง
???????“หมายถึงป่าแต่ละป่ามันไม่เหมือนกัน?” น่อมะไหง่ทวนถาม “อะไรทำให้มีนาคิดว่ามันต่างล่ะ”
???????“ก็น่อมะไหง่ไง” มีนาเงียบไปสักพัก “เฟรมภาพทั้งหมดนั่น มีนาขนมันมาสำหรับเรา”
???????น่อมะไหง่รู้ว่าความฝันของมีนาคือการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เท่าที่อยากจะไป พอๆ กับที่มีนาก็รู้ว่าน่อมะไหง่นั้นชอบวาดภาพเป็นที่สุด
???????แต่สำหรับคำชวนออกเดินทางครั้งนี้ มันทำให้น่อมะไหง่นอนไม่หลับทั้งคืน
???????ทางลาดยางสายเล็กๆ ลัดเลาะคดเคี้ยวเข้าไปในผืนป่าเริ่มเปลี่ยนเป็นทางลูกรัง ในบรรยากาศชวนเงียบสงัดนี้ นานๆ ครั้งจะมีรถสวนทางมาสักคัน บางช่วงถนนก็ถูกส่งต่อจากลูกรังเป็นทางคอนกรีตเล็กๆ ที่กำลังสร้างเสร็จเพียงครึ่ง ก่อนจะสลับและทิ้งระยะยาวออกไปด้วยถนนดินแดงดังเดิม เพิ่มเติมคือที่มีฝนกัดเซาะเป็นร่องลึกอยู่ก่อนหน้า
???????ฝนยังคงกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสายและหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ ในโมงยามของพายุฝนกลางป่าที่น้ำพร้อมจะไหลบ่าลงมาได้ทุกเมื่อนั้น ไม่มีจุดกลับใจ มีแต่จุดที่ฝึกความเข้มแข็งไปอย่างต่อเนื่อง ถนนเส้นหลักเบื้องหลังนั้นห่างออกไปทุกที ระหว่างทางที่เธอขับผ่านไปก็ไม่มีบ้านคนตั้งอยู่ แม้จะเป็นผู้มีจิตใจแน่วแน่แต่การภาวนาต่อเจ้าป่าเจ้าเขาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่เธอพกพาออกเดินทางทุกครั้ง กระทั่งเห็นป้าย “เกริงกระเวีย” อันมีปากทางเป็นถนนเส้น 323 ที่ทอดสายไปสุดชายแดนตะวันตก เธอเผยยิ้มแรกออกมาและผ่อนลมหายใจอย่างโปร่งโล่ง ก่อนจะหักพวงมาลัยเลี้ยวไปทางซ้ายซึ่งค่อย ๆ ห่างออกไปจากปลายสายของถนนหมายเลข 323
???????นักเดินทางมักเรียกถนนสายนี้ว่าถนนสายงูสิง เพราะคดเคี้ยวเสียยิ่งกว่าลำคลองงู ที่พาไปสู่หมู่บ้าน 399 โค้ง เป็นที่รู้กันในหมู่นักเดินทางว่าต้องผ่านผืนป่าไร้แสงไฟที่อีกฟากคือหุบเหวนี้ไปให้ได้ก่อนมืดค่ำ คำเตือนเหล่านั้นเป็นไปเพื่อความปลอดภัย แต่สำคัญยิ่งกว่าคือเราต้องส่งคืนพื้นที่และเวลาให้กับสัตว์ป่าเจ้าของพื้นที่ซึ่งกำลังจะออกมาหากิน
???????มีนามีเวลาอยู่บนถนนเส้นนี้อีกเพียงสองชั่วโมง แม้การมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตกอาจทำให้รู้สึกคล้ายว่าตะวันลับฟ้าช้าลง แต่สำหรับเธอ การมุ่งไปสู่สิ่งที่ไม่อาจล่วงรู้จะนำเธอเข้าสู่แดนสนธยาไวขึ้นเสมอ มนุษย์ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กจ้อยขณะที่ธรรมชาติคือสิ่งยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะหยั่งได้ถ้วนทั่ว เธอคิดเช่นนั้น ขณะมองมวลแมกไม้สองข้างทาง พร้อมใจกันโค้งค้อมให้ถนนสายเล็กๆ ที่ทอดตัวเข้าไปในภูเขา อยู่ ๆ เธอก็คิดถึงคณะเดินทางของรพินทร์ ไพรวัลย์ คณะเดินทางที่เป็นจุดเริ่มต้นนำเธอมาสู่การเดินทางบนถนนสายนี้
???????เมื่อผ่านร้อยกว่าโค้งมาได้จนใกล้จะถึงปลายทาง มีนาสะบัดหัวแรง ๆ เพื่อขับไล่ความง่วงมึนออกไป อีกทั้งเป็นการเรียกสติในห้วงนาทีที่เหนื่อยล้าจากการขับรถมาเป็นเวลานาน
???????เธอสะบัดหัวแรง ๆ อีกครั้ง
???????คราวนี้เพื่อพยายามสะบัดภาพใครบางคนให้พ้นจากห้วงคำนึง
[2]
???????“ขอให้มีความสุขกับการเข้าป่าครับ”
???????เธอรับหนังสือ อาบป่า ชินริน-โยกุ วิถีแห่งการฟื้นฟูชีวิต พร้อมลายเซ็นจากนักแปลในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กลางเมืองหลวงช่วงเดือนตุลาคม นั่นเป็นหนังสือที่ช่วยให้เธออ่อนโยนต่อตนเองและต่อโลกมากขึ้น
???????ทันทีที่กลับถึงห้อง โดยไม่ทันจะได้อ่านเธอก็เก็บมันใส่เป้เดินทาง
???????บ่ายสองสี่สิบมือถือดังขึ้น หน้าจอแสดงหมายเลข 034… มีนาหยิบขึ้นมามองด้วยความสงสัย เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยรับโทรศัพท์อยู่เป็นปกติ ประจวบกับในช่วงนี้ที่ข่าวการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก
???????ในที่สุดเธอตัดสินใจกดรับสาย เมื่อเห็นว่าเสียงนั้นดังนานจนผิดปกติ
???????“สวัสดีครับ ใช่เบอร์คุณมีนาหรือเปล่าครับ” เสียงผู้ชายปลายสายถามขึ้น
???????“ค่ะ ไม่ทราบโทรจากที่ไหนหรือคะ”
???????“จากสถานีรถไฟนครปฐมนะครับ พอดีจะแจ้งว่ารถขบวนที่ซื้อตั๋วไป หยุดวิ่งกะทันหันครับ เลยโทรมาแจ้งว่าให้มารับเงินคืน”
???????มีนานิ่งงันด้วยความตกใจไปหลายวินาที
???????ขบวนที่หยุดวิ่งกะทันหันนั่นคือรถไฟรอบสุดท้าย ที่จะวิ่งผ่านและเข้าไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ “มีวิธีไหนที่จะไปทันขบวน 107 ได้อีกบ้างคะ” เธอถามเจ้าหน้าที่ พร้อมบอกเหตุจำเป็นในการเดินทางอีกทั้งได้จองตั๋วทางไกลไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
???????เจ้าหน้าที่ค้นขบวนใหม่ให้อีกครั้งเ มื่อทราบว่ารถไฟที่เธอจองไว้ล่วงหน้าจะออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ภายในสามชั่วโมงหลังจากนี้
???????เธอได้รับข้อเสนอว่ามีอีกขบวนแต่จะต้องลงที่ตลิ่งชัน หลังจากนั้นให้ต่อรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้าสถานีบางซื่ออีกที รถไฟขบวนนี้จะออกจากสถานีในเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง
???????ตัวเลือกสุดท้ายเธอมีเวลาจัดการทุกอย่างเพื่อออกเดินทางในเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
???????สี่สิบนาทีที่นับถอยหลังหลังจากวางสาย เธอกวาดของที่เตรียมไว้ยัดใส่ถุงผ้าใบเก่ง ยังนับว่าโชคดีที่ก่อนหน้าเธอได้เก็บเสื้อผ้าและของสำคัญใส่เป้ไว้แล้ว เธออาบน้ำและแต่งตัวอย่างเร่งรีบ ก่อนกดมือถือเรียก แกรบคาร์
???????เธอมาถึงสถานีในสิบห้านาทีสุดท้าย และจัดการทำเรื่องเปลี่ยนตั๋วในทันที
???????เจ้าหน้าที่ยื่นตั๋วใบใหม่มาให้เธอ พร้อมกับวารสารรถไฟสัมพันธ์ชื่อ “ผลิบานไร้กาลเวลา”
???????จากเช้ายันค่ำยันอีกวัน จากหนังสือสู่หนังสืออีกเล่ม จากสถานีสู่สถานีจนนับไม่ถ้วน รถไฟขบวน 107 กรุงเทพอภิวัฒน์-เด่นชัย เคลื่อนผ่านชุมทางบ้านภาชี ปากน้ำโพ ชุมแสง ตะพานหิน และพาเธอไปถึงสถานีพิษณุโลกในเวลา 03.35 น. ในโบกี้รถไฟคันที่ 3 นักเดินทางต่างอัดแน่นอยู่ในนี้ เธอมองไปยังช่องวางสัมภาระเหนือที่นั่งของผู้คนเบื้องหน้า เป้ใบใหญ่พร้อมไม้โพลเดินป่าบ่งบอกว่า ผู้ที่โดยสารมาในโบกี้เดียวกันนี้คือกลุ่มคนที่กำลังจะเดินทางไปบนถนนสายเดียวกัน
???????ขบวนรถไฟเคลื่อนออกจากสถานี ทั้งเธอและเพื่อนร่วมทางเดินมาขึ้นรถสองแถวโดยสารที่จอดรออยู่ด้านหน้า เป้หนักอึ้งซึ่งวางอยู่ก่อนหน้าถูกเหวี่ยงขึ้นหลังของทุกคน เธอพร้อมสำหรับการแบกน้ำหนักบนบ่าแม้จะแบกมาจนเคยชินในชีวิตประจำวัน น้ำหนักของการเดินทางนั้นต่างจากสิ่งอื่นใด เธอรู้สึกเบาหวิวเมื่อนึกถึงสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า
???????เนินมรณะ
???????“ถึงเนินมรณะแล้วเลี้ยวขวา...หรือว่าซ้าย”
???????เธอพยายามทวนคำบอกเล่าอย่างไม่มั่นใจเมื่อเดินไปเจอกับทางแยกเบื้องหน้าที่ปักป้ายว่าเนินมรณะ ไร้เสียงของผู้ผ่านไปล่วงหน้าและไม่มีวี่แววของผู้ที่จะเดินตามมาทีหลัง ขณะนั้นตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงทุกที เธอจึงไม่ปล่อยให้ตัวเองลังเลล่าช้าไปกว่านี้ เพราะลมในระดับความสูงกว่าหนึ่งพันหกร้อยเมตรที่ปะทะเข้ามาอาจพาเธอร่วงกลิ้งลงจากสันเขาได้ทุกเมื่อ
???????“น่อมะไหง่ไอ้ตาบ้าเอ้ย!” เธอสบถออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย
???????“ถ้านายต้นไม้สีแดงนั่นมาด้วยกันก็คงดี ป่านนี้ได้กางเต็นท์เสร็จไปนานแล้ว” เธออดคิดถึงห้วงเวลาของการลงพื้นที่ ที่มีน่อมะไหง่ไม่ได้ ท่ามกลางธรรมชาติที่กว้างใหญ่ น่อมะไหง่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นเสมอ โดยเฉพาะการช่วยตัดสินใจ
???????เธอเลือกเดินไปทางซ้ายของเนินมรณะ
???????ที่ฟากฟ้าทางขวา
???????แนวเขาภูเมี่ยงของฝั่งประเทศลาวตั้งตระหง่านอย่างสง่างามให้ผู้มาเยือน ได้สัมผัสถึงความอัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ทิวเขาสูงชันสลับซับซ้อนลดหลั่นกันไปสุดสายตา มวลเมฆและหมอกขาวลอยอยู่บนยอดเขาในระยะใกล้แค่เอื้อม
???????“เมื่อคุณพิชิตเนินมรณะอันเป็นเนินสุดท้าย แล้วพบว่าเบื้องหน้ายังมีอีกหนึ่งประตูที่พระเจ้าไม่เคยให้คำใบ้ และคุณก็ไม่เคยรับรู้
???????เป็นด่านซึ่งรวมเอาทุกความหฤโหดที่ผ่านมาตั้งไว้เบื้องหน้า
???????คุณจะเจอด่านนี้ในวินาทีที่เรี่ยวแรงหยดหยาดสุดท้ายถูกรีดออกมาใช้จนหมดสิ้น
???????จังหวะนั้นคุณอาจแทบล้มทั้งยืน แม้ก้นคุณจะจ้ำเบ้ากระแทกพื้นเกลือกกลิ้งทอดร่างกับดินโคลนไปก่อนแล้ว
???????คุณอาจรู้สึกหนักอึ้งราวภูเขาทั้งลูกที่กำลังปีนอยู่ ถูกขยับให้เคลื่อนที่ห่างออกไปอย่างไม่สิ้นสุด
???????แต่เชื่อสิ จะไม่มีใครล้มเหลวจากการออกเดินทาง”
???????เธอกล่าวไว้เช่นนั้น บนหน้าบันทึกที่ระบุความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล
???????เธอเดินตัดมาอีกทางในระดับความสูงชันที่ ต้องเปลี่ยนจากการเดินธรรมดามาเป็นการเดินสลับปีนป่ายที่ต้องใช้ทั้งกำลังแขนเข้ามาช่วยเกาะโขดหิน เบื้องล่างของเส้นทางที่ลัดเลาะหน้าผามาทางซ้าย มองลงไปคือหุบเหวสลับทิวเขาน้อยใหญ่ทอดออกไปไกลสุดสายตา เธอมองไปยังที่ที่เริ่มต้นเดินขึ้นมาจากฝั่งพิษณุโลก ในอีกไม่กี่ร้อยเมตรเบื้องหน้าคือขอบฟ้าอุตรดิตถ์ที่มีฉากหลังเป็นแนวขุนเขาฝั่งลาว นั่นคือเขตแดนตามแผนที่ แต่ธรรมชาติแท้จริงไม่มีใครเป็นเจ้าของ ธรรมชาติเป็นของธรรมชาติเอง ขุนเขาและเมฆขาวก็อยู่ตรงนั้นเสมอมา
???????ฝนตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หัวค่ำลากยาวมาตลอดทั้งคืน
???????หมูบ้านบนลานสนที่สร้างขึ้นจากเต็นท์ของเหล่านักเดินทางหลายสิบหลังถูกเขย่าด้วยแรงลมจนแทบจะลอยปลิวไปตามกัน ชั่วโมงนั้นทุกคนล้วนขดตัวซุกถุงนอน เพื่อต่อสู้กับอุณหภูมิสิบองศา ซ้ำยังถูกเขย่าขวัญด้วยเสียงสายฟ้าเกรี้ยวกราดซึ่งดังสลับกับเสียงใบสนปะทะลมดึก
???????เสียงนั้นโหยหวนราวกับภูตพรายกำลังแผดร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดทั้งคืน
???????จินตนาการภายใต้ความมืดมิดนั้นทำให้มีนาหวั่นกลัวต่ออำนาจของธรรมชาติที่มิอาจควบคุมได้ เธอรู้สึกราวกำลังจะถูกหอบยกไปทั้งเต็นท์ด้วยแรงลมจนมิกล้าข่มตาหลับ มีนาขยับตัวดันเต็นท์ฝั่งที่ถูกลมปะทะ น้ำฝนที่ไหลเป็นทางอยู่ในระดับเดียวกับที่เธอนอน และอีกไม่นานมันอาจไหลเข้ามาข้างใน เธอยกมือขึ้นต้านแรงลมที่เขย่าอยู่ด้านนอกจนผล็อยหลับไป
???????รู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวมาจากเต็นท์ข้างๆ พายุกลางดึกที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องเล่าข้างกองไฟในวงสนทนาบนลานสน
ราวกับค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงฝันไป ไร้ร่องรอยของพายุใดๆ ในยามเช้า
???????หมอกขาวเริ่มไหลอาบทั่วลานสนบนภูสูง สายลมที่เคยเกรี้ยวกราดกลายเป็นสายลมจางๆ บางเบาลูบไล้ใบหน้า ความเหนื่อยล้าทั้งกายใจปลิวหายไปในลมเช้า ภูเมี่ยงที่ตั้งตระหง่านในเมื่อวานบัดนี้เหลืออยู่เพียงครึ่งราวกับมีใครเอาผ้าขาวผืนใหญ่ไปปกคลุมยอดภูเอาไว้ ทุ่งดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนค่อยๆ ผลิบานพร้อมๆ กับแสงเช้าที่ค่อยๆ ลามเลียเข้ามา กลายเป็นทุ่งดอกไม้ผืนใหญ่ราวกับใครเอาพรมดอกไม้มาปูทั่วทั้งพื้นที่ พืชพรรณนานางดงามราวกับพร้อมใจกันเนรมิตลานสนที่สวยอยู่แล้วให้ทวีความงามขึ้นไปอีก
???????ธรรมชาติงดงามด้วยตัวของมันเอง จัดการและพึ่งพาตัวเองได้ตามระบบนิเวศที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาและสามารถเยียวยาตัวเองได้แม้จะผ่านมากี่ฤดูกาลหรือผันผ่านกี่ลมพายุ นั่นคือธรรมชาติ ธรรมชาติที่อยู่ได้แม้ไร้มนุษย์
[3]
???????โอ้..ภุมรินเจ้าเอ๋ย ดอมดมพฤกษา ตามพนาบรรพตลำธาร ?
???????แรงลมโบกโบยใบสน เสียงอู้เหมือนเธอเรียกหา ฉงนแหงนมอง หาเธอ...
???????เธอฮัมเพลงสเน่ห์มูเส่คีคลอไปกับเสียงที่ดังมาจากลำโพงขณะอยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 และปล่อยให้เพลงเล่นไปตามเพลย์ลิสต์ตลอดทางอยู่เช่นนั้น สักพักก็แยกมาสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายตาก-แม่สอด ที่ทอดยาวสู่ชายแดนประเทศเมียนมา ถนนเส้นนี้ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางการขนส่งที่อันตรายอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งทางโค้งลาดชัน สะพาน ขึ้นเขา แสงเย็นที่สาดส่องมายังทิวเขาสลับซับซ้อนนั้นทำให้บรรยากาศและภูมิทัศน์ธรรมชาติตลอดรายทางงดงามเป็นอันดับต้นๆ พอๆ กัน
???????มีนาเลี้ยวรถเข้าสู่บนถนนอินทรคีรีในเวลาจวนหกโมงเย็น
???????Borderline gallery ซุกตัวอยู่ริมถนนสายนี้ ทุกๆ ปีภาพเขียนของเหล่าศิลปินจะถูกนำมาจัดแสดงไว้ใน Art gallery เล็กๆ แห่งนี้ นั่นคือสาเหตุแห่งการมาเยือนหอศิลป์ริมชายแดนไทย-เมียนมาของเธอ
???????นิทรรศการ “หายไปในอัตราเร่ง” จะเริ่มจัดแสดงในวันพรุ่งนี้จากนั้นนิทรรศการจะจัดแสดงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์โดยเหล่าศิลปินที่เดินทางมาเยือนจากทุกสารทิศ ทั้งไทย และต่างชาติ
???????ภาพของเดาง์ ยูออง จากศิลปินชาวเมียนมาคือภาพที่เธอสนใจเป็นพิเศษ นั่นเพราะตรงประเด็นที่เธอสนใจอยู่เช่นเดียวกัน ภาพวาดสีน้ำมันบนเฟรมผ้าใบขนาดใหญ่ที่นำเสนอสถานการณ์ป่าไม้ในสังคมโลกผ่านแนวคิดดวงตาแห่งอำนาจที่มองมายังปีศาจที่กำลังเขมือบป่าไม้
???????“ผืนป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังถูกตัดโค่นขนานใหญ่ ทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน สูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ภาพที่เว้าแหว่งและว่าเปล่านี้ คือส่วนของผืนป่าที่หายไปในอัตราเร่ง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราการตัดไม้ทำลายป่าสูงที่สุดภูมิภาคหนึ่งของโลก โดยประเทศที่เผชิญปัญหาหนักสุดในขณะนี้ คือ เมียนมา รองลงมาคือ ???????อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และไทย ตราบที่สถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ คาดว่าอีกไม่เกิน 30 ปี ป่าธรรมชาติจะถูกทำลายประมาณ 25% ของป่าทั่วโลก เพราะตอนนี้เมียนมาเราสูญเสียพื้นที่ป่าไปแล้วราว 27%” เดาง์ ยูออง นำเสนอแนวคิดของภาพหลักในนิทรรศการ
[4]
???????“วู้ว... น้ำตกที่นี่มันช่างเย็นและสวยจริงๆ เลย” มีนาส่งเสียงแข่งกับเสียงน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากผาหินที่ปกคลุมไปด้วยมอสและพืชพรรณต่างๆ เขียวชอุ่มปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่
???????มีนาเดินทางออกจากจังหวัดตากในยามเช้าตรู่ มุ่งหน้าเข้าสู่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ผืนป่าที่เป็นป่าต้นน้ำแม่น้ำปิง และเชื่อมรอยต่อระหว่างจังหวัดตากกับแพงเพชร แล้วมุ่งหน้าตรงมายังอุทยานแห่งชาติคลองลาน ผ่านภูมิประเทศที่มีเทือกเขาสลับซับซ้อนอันก่อให้เกิดน้ำตกขนาดใหญ่ น้ำที่ไหลจากยอดเขาลงมาสู่พื้นด้านล่างนั้นรวมกันเป็นน้ำตกคลองลานที่มีความสูงถึง 1,439 เมตร พื้นที่แอ่งน้ำเบื้องหน้าสามารถลงเล่นน้ำได้และด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้นั่นทำให้เธอเริงร่าราวกับปลาได้พบกับฝนใหม่
???????เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ ที่เธอเดินทางออกจากคลองลานไปเป็นระยะทางกว่า 75 กิโลเมตร ผ่านถนนหมายเลข 1072 มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้สู่ ถนนสุขสวัสดิ์ ผ่านจุดสกัดยาเสพติดอำเภอปางศิลาทอง เพื่อไปยังจุดพักแรมของค่ำคืนนี้ ที่บ้านของเสือโคร่ง
???????“บ้านของเสือโคร่ง-คลิตี้-ทุ่งเสือโทน” เธออดไม่ได้ที่จะโยงทุกสิ่งอย่างตามรายทางที่พบเข้ากับหมู่บ้านของน่อมะไหง่ที่เธอเพิ่งเดินทางจากมาไม่นาน
???????อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นผืนป่าแห่งความหวังในการกระจายตัวของสัตว์ป่า ราวกับเป็นทั้งบ้านและโรงอาหารของสัตว์ ที่ราบริมน้ำของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์นั้นอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติคลองลาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และตอนล่างก็ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ความอุดมสมบูรณ์บริเวณนี้เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด รวมทั้งดึงดูดสัตว์ผู้ล่าอย่างเสือโคร่งเข้ามาด้วย
???????หากภัยคุกคามจากน้ำมือของมนุษย์ไม่เข้าไปทำลายระบบนิเวศที่นี่ไปเสียก่อน ผืนป่าแห่งนี้ก็คงจะมีโอกาสกลายเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุกรรมของสัตว์ป่าในประเทศไทยจริง ๆ เธอวาดหวังเช่นนั้น
???????หวังให้ความหวังไม่ต้องเป็นแค่ความหวังอีกต่อไป
???????เก้าโมงเช้า มีนาเก็บสัมภาระ เฟรมภาพ ขาตั้งไม้ เต็นท์ ออกเดินทางจากช่องเย็นเพื่อไปต่ออีก 165 กิโลเมตร ผ่านถนนสายเล็กๆ ระหว่างเขาชนกัน มุ่งไปสู่ลานสัก ทองหลาง เข้าบ้านไร่จังหวัดอุทัยธานีอันเป็นพื้นที่ผืนป่าห้วยขาแข้ง
???????ป่าไม้แถบนี้ เรียกได้ว่าแทบจะมีป่าไม้เกือบทุกประเภทในประเทศไทย ทั้งป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนผลัดใบ เว้นก็แต่ป่าชายเลน ป่าชายหาด และป่าพรุน้ำจืด มีนาได้ความรู้เหล่านี้มาจากการอ่านตำรา ทว่าในด้านความเชื่อและวิถีของคนกับป่าที่ตำราไม่ได้บอกนั้น เธอเรียนรู้มันจากน่อมะไหง่ นายต้นไม้สีแดงของเธอ
???????สัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ก็รวมกันอยู่ที่นี่ นั่นจึงทำให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโก
???????มีนากดเล่นเพลง Rise ของ Eddie Vedder ที่ประกอบภาพยนตร์ Into the Wild ปล่อยเพลย์ลิสต์เล่นไหลไปเรื่อย ๆ เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงก็มาถึงหมู่บ้านตะเพินคี่ในเวลาเที่ยงวัน
???????หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงเก่าแก่ติดเขตห้วยขาแข้ง เจดีย์ปูนเล็ก ๆ กลางหมู่บ้านนั้นเป็นที่รวมเอาชนชาวเขาทุกสารทิศเข้าร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ในทุกๆ ปี
???????“นายคงจะชอบที่นี่” เธออดคิดถึงหน่อมะไหง่ไม่ได้ในทุกครั้งที่เข้าไปสัมผัสความเชื่อของชุมชน
???????ตะเพินคี่ เป็นภาษากะเหรี่ยงแปลว่า “ต้นน้ำ” ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินตลอดเวลา อากาศในหมู่บ้านแห่งตะเพินคี่จะหนาวเย็นเกือบตลอดปี และที่อยู่ติดกับหมู่บ้านแห่งนี้นั่นคืออุทยานแห่งชาติพุเตย ป่าแห่งสุดท้ายของจังหวัดสุพรรณบุรี
???????มีนาเหลือเวลาในการเดินทางครั้งนี้อีกไม่มากนัก หากเป็นไปตามที่ตั้งใจเอาไว้ คืนนี้เธอต้องไปให้ทันก่อนจะมืด เพื่อพักค้างคืนที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
???????“เห็นว่าออกจากถ้ำธารลอดของที่นี่แล้ว เราสามารถลัดไปที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้เลยใช่ไหมคะ”
มีนาถามเจ้าหน้าที่อุทยาน ก่อนจะได้รับคำแนะนำว่าเส้นทางที่เธอหมายถึงนั้นต้องลุยกับเส้นทางอันหฤโหด และ???????ผ่านด่านเขาโจด ก่อนจะได้ขับรถลงแพขนานยนต์เพื่อไปต่อ
???????เธอตัดสินใจได้ในทันทีและขับรถไปอีกทาง
???????มีนาขนเฟรมผ้าใบพร้อมขาตั้งไม้ เดินทางเตร็ดเตร่ไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก ในทุก ๆ ที่ของการหยุดพักมีนาจะนั่งวาดภาพความประทับใจเก็บเอาไว้สถานที่ละเฟรม เธอเดินทางผ่านอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติไทรโยค เลยขึ้นไปพักค้างคืนริมแม่น้ำซองกาเรียที่สังขละบุรี ดื่มด่ำไปกับภาพวาดและบรรยากาศค่ำคืนของแม่น้ำ ตื่นเช้าขึ้นมาชมวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองที่สะพานมอญ
???????มีนาออกจากสังขละบุรีไปพร้อมกับพยากรณ์อากาศที่แจ้งเตือนว่า พายุจะเข้าในห้วงเวลาสามวันนี้ สำหรับพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก เธอขับรถไปบนถนนหมายเลข 323 จนถึงด่านตรวจเกริงกระเวีย แล้วตัดเข้าไปในถนนเส้นเล็กๆ ที่ทอดยาวเข้าสู่ลำคลองงูโดยไม่ทันได้ดูพยากรณ์อากาศใด ๆ
[5]
???????เข้าหน้าฝนพอดี
???????สามปีที่เธอมีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้ง ไม่พบชายชื่อน่อมะไหง่ในทุ่งเสือโทน มีนาเดินไปที่บ้านริมห้วยมุงหญ้าคาหลังนั้น น้ำที่เคยใสสะอาดในลำห้วยที่ไหลผ่านหมู่บ้านไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากนายทุนเข้ามาทำเหมืองแร่ในพื้นที่ น้ำในลำห้วยก็ไม่สามารถตักขึ้นมาใช้ดื่มกินได้ รวมถึงสัตว์น้ำน้อยใหญ่ก็หายไปตามๆ กัน เธอคิดถึงผักกูดสวยๆ ที่เกิดอยู่ริมน้ำ คิดถึงเมนูยามค่ำที่ชื่อเซอย่าเด่าไกกะดุ ไม่ใช่แค่ผักกูดที่หายไปพร้อมกับสารตะกั่วจากเหมืองแร่ แต่สมุนไพรในป่าแถบนี้ก็ค่อยๆ สูญพันธุ์ตามไปด้วย ครั้นพอเจ็บป่วย หากต้องเดินทางไกลเข้าไปรักษาในตัวเมืองก็เป็นเรื่องลำบากสำหรับชาวกะเหรี่ยงแถบนี้ทุกคน
[5]
???????มีนาเอื้อมมือหยิบเหยือกกับแก้วน้ำที่ตั้งอยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมาจิบ ก่อนเดินไปเปิดม่านและหยุดยืนอยู่ริมหน้าต่างของชั้นสิบในตึกสูง ทอดสายตาออกไปพักหนึ่ง เพื่อครุ่นคิดว่าสิ่งที่เห็นเบื้องหน้านั้นคือหมอกแห่งฤดูหนาวหรือฝุ่นที่คลุมเมืองกันแน่
???????เธอตั้งใจจะไปพบหมอในวันนี้ ด้วยอาการไอที่มีมานานร่วมเดือนนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หากทว่าโปรเจกต์ที่เธอจะไปนำเสนอเพื่อยื่นขอทุนในวันนี้นั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน มันไม่ใช่เพื่อเธอคนเดียว
???????มีนาอาบน้ำแต่งตัวและเดินทางไปยังหอศิลป์กลางเมืองหลวงโดยขึ้น BTS สายสีลม เพื่อไปลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ผู้คนเดินขวักไขว่กันอย่างเร่งรีบในยามเช้า ความจริงก็เป็นเช่นนี้อยู่ทุกห้วงเวลา ทั้งผู้คน รถที่สัญจรบนถนน รถไฟฟ้า ต่างก็ช่วงชิงเวลากันอย่างเร่งรีบ เธอเดินต่อมาอีกไม่กี่เมตรเพื่อรอเวลาเปิดของหอศิลป์ในเวลาสิบโมงเช้า ผู้คนเดินผ่านไปมาต่างสวมหน้ากากให้ตัวเองเพื่อรักษาชีวิตในห้วงยามนี้ให้ปลอดภัย
???????มีนาเคยอยู่ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นคือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่พรากเอาชีวิตของผู้คนไปอย่างมากมาย นั่นเกิดจากเชื้อโรคที่นำมาสู่โรคระบาด แต่ครั้งนี้มันเกิดจากอากาศที่ทุกคนต่างใช้หายใจ และเราไม่มีทางเลี่ยงที่จะไม่สูดดมมันเข้าไปได้เลย พอๆ กับที่ไม่มันใจในภาพของมุมเมืองบนตึกสูงเมื่อเช้า คือเธอไม่แน่ใจว่าที่สูดดมเข้าไปทุกวันนี้คือฝุ่น pm 2.5 หรือว่าอากาศกันแน่
???????ภาพที่ม่านหมอกหนาสีเทาปกคลุม ราวจะเคลื่อนลงมากลืนกินทุกวัตถุทุกสิ่งไปจากการมองเห็น โควิดยังมีแนวทางในการป้องกันรักษารวมถึงหาวัคซีนได้ แต่สำหรับมลพิษทางอากาศนั้น มันไม่ได้แก้ที่การหาวัคซีนในภายหลัง ระหว่างรอเวลา มีนาพยายามมองหาพื้นที่สีเขียวให้พักสายตาและใจ เธอหวังว่ามันจะช่วยคลายความอึดอัดของเมืองแข็งทื่อไร้ชีวิตนี้ลงได้บ้าง
???????และพบว่าไม่มี
???????มีนาหยิบมือถือขึ้นมาไถฟีด พบรายงานคุณภาพอากาศและค่า PM2.5 ประจำวันขึ้นมาบนหน้าแรกรูปอิโมจิใบหน้าสีแดงก่ำด้านล่างเขียนกำกับว่ามีผลต่อสุขภาพ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วประเทศอย่างเกินค่ามาตรฐาน ให้ทุกคนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้ง
???????อย่างไม่มีทางเลี่ยงได้ และดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
???????เธออยู่ตรงนี้ ที่นี่ และพบว่าเป็นเช่นนี้มาหลายรัฐบาล
[6]
1 กันยายน ที่ Borderline gallery
???????หลายปีให้หลังจากการเดินทางอันยาวไกลของเธอที่ผ่านมา และเธอคือนักเดินทางสำหรับเขาตลอดไป ปีนี้นิทรรศการถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าครั้งใด ๆ ที่เคยผ่าน
???????ผลงานภาพวาดสีน้ำมันบนเฟรมผ้าใบที่เป็นการจัดแสดงพิเศษประจำปีนี้มีชื่อว่า นัยน์ตาสีเอิร์ธโทน โดยมีแนวคิดที่???????ต้องการนำเสนอธรรมชาติ ผ่านสายตาสัตว์ป่าในพื้นที่ของผืนป่าอนุรักษ์ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นพื้นที่คุ้มครองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
???????สถานที่ที่ปรากฏในภาพวาดมาจากเส้นทางของเธอที่ไล่ลงมาจากตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี สู่กาญจนบุรีเป็นจังหวัดสุดท้าย
???????ดวงตาในภาพวาดนั้น เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นแววตาของเสือโคร่ง และเมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ จะเห็นชื่อศิลปินติดไว้ว่า MEENA
นอกจากผลงานศิลปะแล้ว บันทึกและผลงานจากการเดินทางทั้งหมดของมีนาก็ถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่นี่เช่นเดียวกัน เป็นนิทรรศการที่จัดไว้ถาวร
???????“บางทีโลกอาจมีเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเรา”
???????นั่นเป็นทั้งธีมนิทรรศการประจำปีนี้ และคำพูดสุดท้ายของเธอก่อนออกเดินทาง
???????“ปีหน้าที่นี่จะนิทรรศการจัดในธีมอะไรหรือคะ” เด็กสาวคนหนึ่งถามขึ้น ชายที่นำชมนิทรรศการเริ่มมีน้ำใส ๆ ไหลรื้นลงมาจากดวงตา
???????เด็กสาวไม่แน่ใจว่านั่นคือคำตอบสำหรับเธอหรืออย่างไร...
หลังจากปิดนิทรรศการประจำวันลงไป เขาเดินเข้าไปที่ห้องเก็บบันทึกและผลงานของมีนา ข้างหลังพื้นที่จัดแสดงนั้นมีห้องทำงานเล็ก ๆ อยู่อีกห้อง
ผ้าคลุมสีขาวถูกดึงออกจากเฟรมผ้าใบที่มีขนาดใหญ่เท่าๆ กัน
น่อมะไหง่ค่อย ๆ ลูบคลำภาพอย่างช้าๆ และหยุดชะงักตรงคำว่า นกเงือกแห่งคลิตี้