ชุมชนตำบลผักไหม จังหวัดศรีสะเกษ
“ธรรมชาติสมดุล ชุมชน ป่า นา น้ำ”
ชุมชนตำบลผักไหมช่วยกันดูแลรักษาป่าริมห้วยทับทัน ทำให้ยังคงสภาพเป็นป่าริมน้ำผืนใหญ่ที่สุด เพิ่มและขยายพื้นที่ป่าเข้าไปในหมู่บ้าน โดยฟื้นฟูและรักษา ที่ป่าช้า ป่าดงปู่ตา และทำเลเลี้ยงสัตว์ ปลูกไผ่เพิ่มเติมบริเวณแนวเขตรอบป่าชุมชนเป็นแหล่งอาหารให้กับคนในชุมชน ส่งเสริมการปลูกป่าครอบครัวตามหัวไร่ปลายนาในโครงการธนาคารต้นไม้ พัฒนาและยกระดับสู่การเป็นเกษตรอินทรีย์ทั้งตำบล เพื่อลดการใช้สารเคมีและการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม ข้าวหอมมะลิของชุมชนได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเพิ่มการปลูกพืชหลังนา ได้แก่ ถั่วเขียว และกระเจี๊ยบ สร้างรายได้ตลอดทั้งปี การรวมกลุ่มอาชีพและวิสาหกิจชุมชนหลากหลาย เพิ่มโอกาสทางการตลาดและความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจชุมชน พัฒนาระบบการผลิตสู่การเป็นเกษตรอัจฉริยะ สร้างแรงจูงใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่กลับบ้าน ผลการรู้คุณค่า การรักษาและเกื้อกูลกันของชุมชนได้สร้างสมดุลและความยั่งยืนแก่ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
ที่มาของของชุมชนตำบลผักไหม
เมื่อปี พ.ศ. 2548 ป่าริมน้ำในพื้นที่ตำบลผักไหมอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมจากการบุกรุกแผ้วถางจับจองเป็นที่ทำกินปลูกพืชเศรษฐกิจ การเข้ามาใช้ประโยชน์เก็บหาของป่าของผู้คนจากต่างถิ่นจนเกินขีดความสามารถในการฟื้นตัวตามธรรมชาติ ไม่มีการดูแลรักษาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายๆ ปี ชาวบ้านบางส่วนตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น จึงต้องการหาวิธีดูแลรักษาโดยชุมชนเอง การขอความร่วมมือ เจรจาพูดคุย ห้ามการบุกรุกพื้นที่ กำหนดและจัดทำแนวเขตการอนุรักษ์ สร้างกฎเกณฑ์การเข้าใช้ประโยชน์ ร่วมทำประชาคมเพื่อการแก้ไขปัญหาและจัดการป่าร่วมกัน
ความโดดเด่นของผลงานช่วงรางวัลลูกโลกสีเขียว ประเภทชุมชน ปี 2556
การบรรจุแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าเป็นป่าชุมชน ตลอดจนฟื้นสิ่งมีชีวิตในป่าตามแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลผักไหม ทำให้เกิดความตื่นตัวและการจัดการป่าร่วมกันทั้งตำบล ทั้งผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลผักไหม ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชนและประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า
องค์การบริหารส่วนตำบลผักไหม ได้ดำเนินการจัดเวทีประชาคม ศึกษาดูงาน และตั้งคณะกรรมการป่าชุมชนระดับหมู่บ้าน และระดับตำบล จากนั้นคณะกรรมการป่าชุมชนได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่ป่าร่วมกับผู้นำคณะกรมการหมู่บ้าน ชาวบ้าน และทีมงานเยาวชน มีการประกาศเขตป่า ปักหลักเขต ติดป้ายประกาศ และเสริมการปลูกป่าในพื้นที่บางส่วนที่ป่าเสื่อมโทรม ชุมชนหมู่บ้านประชาคมตั้งกฎระเบียบในการดูแลป่าร่วมกัน เพื่อเป็นข้อบังคับรักษาป่าร่วมกัน
การทำเขตอนุรักษ์ป่าผืนใหญ่ ได้แก่ ป่าโนนกกขาว ป่าข้าวฝาย บ้านนาทุ่ง หมู่ 7 พื้นที่ 750 ไร่ และสร้างกิจกรรมฟื้นฟูให้เป็นแหล่งอาหาร และป่าชุมชนนาทุ่งเหนือ (ป่าบุ่งก้านเหลือง ท่าเกวียน ท่าควาย ป่าวังสิม) บ้านนาทุ่งเหนือ หมู่ 16 ประมาณ 350 ไร่ และป่าช้า ป่าวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหย่อมป่าเล็ก ๆ ที่มีอยู่ในทุกหมู่บ้าน
การปรับเปลี่ยนหลังจากได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว ประเภทชุมชน ปี 2556
การคงสภาพของพื้นที่ป่าอนุรักษ์และการขยายพื้นที่ป่าของชุมชนตำบลผักไหม รวมพื้นที่ประมาณ 3,615 ไร่ประกอบด้วยป่า 3 ลักษณะ ป่าชุมชน ป่าวัฒนธรรม และป่าส่วนบุคคล โดยป่าชุมชน มีลักษณะเป็นผืนใหญ่ติดต่อกันในเขตลำห้วยทับทัน มีชุมชนดูแล 5 หมู่บ้าน (หมู่ 11, 14, 12, 7, 16) โดยมีพื้นที่ป่าชุมชน จำนวน 1,692 ไร่ ป่าวัฒนธรรม เป็นป่าชุมชนกระจายในหมู่บ้าน มีป่าดงปู่ตา ป่าช้าสาธารณะ จำนวน 7 แห่ง และวัดสร้างป่า จำนวน 2 แห่ง โดยมีพื้นที่ป่าวัฒนธรรม จำนวน 107 ไร่ ป่าส่วนบุคคล (ป่าเศรษฐกิจ) ดำเนินการโดยกลุ่มธนาคารต้นไม้ 10 กลุ่ม ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ส่วนบุคคล จำนวน 1,800 ไร่ ประกอบด้วย พื้นที่ป่าตามคันนา ป่าหัวไร่ปลายนา และคู สระน้ำ
กลไกการบริหารจัดการของชุมชนตำบลผักไหม ในการอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลผักไหม สนับสนุนการทำแผนพัฒนา จัดสรรงบประมาณ และบุคลากร คณะกรรมการป่าชุมชนระดับตำบล และคณะกรรมการป่าชุมชนแต่ละป่าชุมชน กำหนดกฎระเบียบ ข้อบังคับ การบริหารจัดการป่าชุมชน โดยมีกฎ กติกา หลัก ๆ คือ ห้ามขุด ย้าย ทำลายต้นไม้ ห้ามเผาป่า ไม้ที่ตายสามารถนำออกจากป่าได้ และสามารถเข้าใช้ประโยชน์จากป่าได้ทุกฤดูกาล รวมถึงการทำแผนอนุรักษ์ ฟื้นฟู ประจำปี
ชุมชนตำบลผักไหมเป็นศูนย์รวมอาหารปลอดภัยได้มาตรฐาน ทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าว และเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ คนในชุมชนได้นำมาเพาะปลูก สร้างอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ ขยายผลไปสู่การขับเคลื่อนสังคม เศรษฐกิจระดับชุมชน และสิ่งแวดล้อมให้มีการเติบโต มั่นคง การรวมกลุ่มจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ทั้งตำบล ได้แก่ กลุ่มผลิตข้าว กลุ่มผลิตถั่วเขียว กลุ่มผลิตถั่วเหลือง และกลุ่มผลิตกระเจี๊ยบ เป็นต้น อีกทั้งพัฒนาผลผลิตจนได้รับใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์
ด้วยทำเลที่ตั้งของป่าครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ห่างจากชุมชน มีเอกชนมาขอใช้พื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ซึ่งจะนำขยะจากชุมชนในรัศมี 12 กิโลเมตร เข้ามาเผาเป็นเชื้อเพลิง โดยจะจ่ายเงินเป็นค่าธรรมเนียมการใช้พื้นที่ป่าแก่ชุมชนเดือนละหลายล้านบาท แต่ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจำนวนมาก คัดค้านเพราะเกรงปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ด้วยความตระหนักว่า "เงินซื้อป่ากลับมาไม่ได้” ดังที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของโรงงานและอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษ ซึ่งสภาพแวดล้อมที่เสียไปแล้วแทบจะไม่สามารถฟื้นฟูกลับคืนได้เหมือนเดิม
การต่อสู้ของชุมชนสะท้อนความมุ่งมั่นในการรักษาป่าผืนนี้ไว้ เพื่อเป็นหลักประกันถึงความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงในชีวิตแก่ลูกหลานต่อไป
ชุมชนตำบลผักไหม ต.ผักไหม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ 33210
ประสานงาน : นางจันทรา หาญสุทธิชัย (นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผักไหม)
ประชากร : จำนวนทั้งสิ้น 7,202 คน แยกเป็นประชากรชาย 3,616 คน ประชากรหญิง 3,586 คน มีจำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น 1,547 ครัวเรือน
พื้นที่ดำเนินงาน : พื้นที่สีเขียวป่าชุมชนตำบลผักไหม พื้นที่ 3,615 ไร่ แบ่งเป็นป่า 3 ลักษณะ
1. ป่าชุมชนที่เป็นผื่นใหญ่ติดต่อกันในเขตลำห้วยทับทัน มีชุมชนดูแล 5 หมู่บ้าน ได้แก่ (หมู่ 11 ,14 ,12, 7, 16) มีพื้นที่ 1,695 ไร่
2.ป่าชุมชนที่กระจ่ายในชุมชนหมู่บ้านเรียกว่า ป่าวัฒนธรรม มีป่าดงปู่ตา ป่าช้าสาธารณะ จำนวน 7 แห่ง และวัดสร้างป่า จำนวน 2 แห่ง รวมพื้นที่ 120 ไร่
3. ป่าส่วนบุคคล (ป่าเศรษฐกิจ) กลุ่มธนาคารต้นไม้ 10 กลุ่ม สมาชิกจำนวน 271 ครอบครัว พื้นที่ 1,800 ไร่ (ตามคันนา หัวไร่ปลายนา คูสระน้ำ)
ระยะเวลาในการทำงานอนุรักษ์ : ปี พ.ศ. 2548 -ปัจจุบัน (รวม 18 ปี)