968

แผ่นน้ำจรดแผ่นฟ้า โดย สมศักดิ์ มงคลมหาชัย

แผ่นน้ำจรดแผ่นฟ้า

ส.เทพรำเพย

 

            1.

            สนามบินสุวรรณภูมิ  ประเทศไทย

            พิทักษ์ไปรับราไบจาคอบที่สนามบิน  ผู้มาเยือนสวมเสื้อผ้าสีดำทั้งชุด  ดวงตากลมโตนิ่งอย่างคนมีสมาธิแฝงด้วยมุมมองและประสบการณ์มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  จมูกโด่งเป็นสันยาวจนมองดูหล่อเข้ม  ใบหน้ามีหนวดเครารุงรัง...ตัดเล็มเป็นทรงเท่อยู่ไม่น้อย  ที่มองดูเด่นคือหมวกกิปปาที่สวมอยู่กลางหัวเป็นหย่อม  คนมารอรับกล่าวต้อนรับทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้ม  แต่อีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกยินดีด้วย  ใบหน้าเรียบเฉย  พยักหน้าน้อยๆ  แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าตรงไปที่โรงงานปลากระป๋องจังหวัดสมุทรสาครทันที

            ราไบจาคอบอยู่ในวัยสี่สิบต้นๆ  เขาคุ้นเคยกับผู้ไปต้อนรับเป็นอย่างดี  เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่รู้จักกัน  ทั้งสองร่วมงานกันมาหลายครั้งแล้ว  คนในโรงงานเรียกราไบว่าพระ  จริงๆแล้วราไบไม่ใช่พระหรือนักบวชของคนยิว  แต่เป็นผู้มีบทบาททำหน้าที่ในการควบคุมอาหารให้ได้มาตรฐานสะอาดถูกต้องตามกฎของศาสนายูดาย  และรับรองด้วยเครื่องหมายอาหารโคเชอร์สำหรับคนยิว  จาคอบเชี่ยวชาญเรื่องสัตว์น้ำ  ปลาที่บริโภคต้องมีครีบและเกล็ด อย่างปลาทูนา ปลาแซลมอนและปลาแฮริ่ง  ราไบจาคอบจะไปรับรองอาหารโคเชอร์อย่างเนื้อหรืออื่นๆไม่ได้  ราไบแต่ละคนร่ำเรียนและชำนาญด้านต่างๆกันไป

            ครอบครัวของพิทักษ์ทำโรงงานปลาทูนากระป๋องส่งออกขายต่างประเทศมาตั้งแต่รุ่นปู่  จริงๆเขาไม่ชอบงานของพ่อแม่ที่ทำอยู่  ชายหนุ่มเรียนจบทางด้านออกแบบผลิตภัณฑ์มา  อยากทำงานทางด้านออกแบบเสียมากกว่า  แต่ก็สู้คำขอร้องแกมบังคับของผู้ให้กำเนิดไม่ได้  เขาเป็นลูกคนโตที่จำต้องสืบทอดกิจการของครอบครัวต่อไป...และอาจสืบทอดไปถึงรุ่นลูกของเขาอีกด้วย

            ขณะที่คนงานกำลังกรำงานอย่างเข้มงวดตามลำดับขั้นตอนที่ราไบวางไว้แต่แรก  เริ่มจากทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆด้วยน้ำร้อน  โต๊ะเขียงหั่นปลาและมีดต้องสะอาดอย่างสุดๆ  การขูดเนื้อปลาถลกหนังและถอดก้างออกอยู่ในการควบคุมเวลาอย่างรีบเร่ง  หากนานเกินเนื้อปลาจะไม่ได้มาตรฐาน  ไม่สามารถจัดเข้าเป็นอาหารโคเชอร์ได้  แล้วลำเลียงชิ้นปลาบรรจุลงในกระป๋อง  จาคอบหันมาตรวจน้ำมันกับเกลือที่ต้องได้มาตรฐานโคเชอร์มาก่อนแล้ว  จากนั้นเข้าตู้ฆ่าเชื้อ  หมุนสวิทช์  แล้วยิงบาร์โค้ดข้างกระป๋องก่อนจะลำเลียงลงกล่องพร้อมส่งออกไปยังปลายทาง

            เสียงสัญญาณอีเมล์ดังขึ้นในโทรศัพท์มือถือของพิทักษ์  พอยกขึ้นเปิดอ่านข้อความจึงรู้ว่าส่งมาจากเยรูซาเล็มในอิสราเอล  ผู้ส่งเป็นคู่ค้าสั่งซื้อปลาทูนากระป๋องรายใหญ่ของบริษัทครอบครัวพิทักษ์  ทางนั้นสั่งเพิ่มอีกห้าตู้คอนเทนเนอร์  เน้นมาว่าขอด่วนและอยากได้ภายในเดือนหน้า

            พิพักษ์รู้ว่าโมเชคู่ค้าเป็นคนเจ้าอารมณ์และเอาแต่ใจตัวเอง  หากไม่ได้อย่างใจฝ่ายนั้นจะขู่ทันทีว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอื่น  เมโชมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของพิทักษ์อยู่ในวัยกลางคน  อารมณ์ปรวนแปรยิ่งกว่าคลื่นลมในมหาสมุทรและลมพายุในทะเลทรายเสียอีก  เขาเป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของอิสราเอล  ครั้งหนึ่งโมเชเคยทำอย่างที่ขู่พิทักษ์ไว้  เปลี่ยนไปสั่งปลาทูนาจากที่อื่น  แต่ในที่สุดก็ต้องหันกลับมาค้าขายกับผู้ผลิตเมืองยิ้มดังเดิม  ด้วยรู้อยู่เต็มอกว่าผู้ขายรักษาคุณภาพสินค้าอย่างเต็มที่  ราคาก็ไม่ได้แพงหรือกระโดดสูงล้ำจากผู้แข่งรายอื่น  ทั้งอัธยาศัยของคนไทยก็อ่อนน้อมและอะลุ่มอล่วยผ่อนหนักผ่อนเบาให้ลูกค้าผู้สั่งซื้อยอมแพ้และยอมถอยหลังไปสักก้าวสองก้าวใด้บ้างอย่างไม่ต้องเสียหน้า  ทั้งๆที่โมเชเป็นคนแข็งไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ใด  เป็นคนประเภทยอมหักไม่ยอมงอ  แต่ก็ยอมยกธงขาวให้กับลูกเล่นลูกชนของพิทักษ์บางครั้งคราว

            “ขอให้รีบส่งของมาให้ด่วนหรือเร็วที่สุด”  โมเชคุยกับพิทักษ์ทางวอตส์แอปป์เมื่อสัปดาห์ก่อน

            “ผมไม่รับปาก  เพราะปลาหายากมาก”  เขาบอกสาเหตุตามจริงที่เกิดขึ้นในท้องทะเล

            พิทักษ์ตั้งข้อสังเกตว่าปลาในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลเริ่มลดน้อยลงอย่างมากจนไม่น่าเชื่อ  บางครั้งบางปีจับปลาไม่ได้ตามความต้องการของผู้สั่งซื้อและผู้บริโภค  เขาเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในทะเลที่เคยอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ในน้ำคณานับเริ่มเปลี่ยนไป

            “ยังไงก็ต้องหาให้ได้และรีบส่งมา  ใครบอกว่าสงครามขายของยาก  แต่ทางเราต้องการอาหารกระป๋อง  โดยเฉพาะปลาทูนากระป๋อง  ตอนนี้กำลังจะขาดตลาด  อาหารสำคัญไม่แพ้อาวุธหรอก  กองทัพต้องเดินด้วยท้องอย่างที่นโปเลียนบอกไว้ไม่ผิด”  โมเชเน้นประโยคหลังชัดถ้อยชัดคำเสียงดังฟังชัด

            จริงๆผู้สั่งซื้อค่อนข้างแน่ใจว่าสงครามจะดำเนินยืดเยื้อต่อไปอีกยาวนาน  ไม่มีทีท่าจะยุติหรือสงบลงอย่างง่ายๆ  หากยังอยู่บนแผ่นดินที่มีความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านรอบด้าน  อย่างไรเสียก็ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้รบรากันอย่างไม่มีวันจบสิ้น  การมีอาหารสำรองไว้ให้เพียงพอจะดีกว่าขาดแคลน  ไม่เพียงแต่ในประเทศบ้านเกิดของโมเชเองที่เกิดการสู้รบมาตลอด  แทบจะไม่มีเวลาพักเหนื่อยด้วยซ้ำไป  แล้วยังภูมิภาคอื่นๆในโลกนี้ที่มองไปทางไหนบนแผนที่โลกก็เห็นสงครามคุกรุ่นไปตามจุดต่างๆแทบจะทุกทวีป  อาหารและของกินมีความสำคัญและจำเป็นไม่แพ้อย่างอื่นเลย

            “เห็นข่าวสงครามกำลังยิงกันอยู่  ที่นั่นไม่อันตรายหรอกเหรอ”  พิทักษ์อดเป็นห่วงไม่ได้

            “ที่นี่เยรูซาเล็ม  ไม่ได้รบกันที่นี่  เขายิงกันรอบนอก  ไม่ต้องสนใจหรอก  รีบหาปลาทูนาใส่กระป๋องให้ถูกหลักอาหารโคเชอร์แล้วส่งมาดีกว่า”  โมเชพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนรำคาญอีกฝ่าย

            เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตกลัวจะไม่ได้สินค้า  นั่นหมายถึงเงินกำไรมากโขจะหายไปในพริบตา  เขาได้ดีดลูกคิดรางแก้วไว้ล่วงหน้าแล้ว  ถึงได้พยายามเร่งให้ฝ่ายผลิตรีบส่งสินค้าให้เร็วที่สุด

            นับเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วที่พิทักษ์อยู่ในวงการหรือแวดวงของผู้ค้าปลาทูนา  จากที่เคยศึกษาและรักการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องหันมาเรียนรู้และทำความรู้จักกับปลาทูนา  การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น  ยังมีให้ค้นหาอีกมากมาย  ตอนนั้นพ่อส่งลูกชายไปเรียนรู้และการทำปลากระป๋องกับเพื่อนสนิทที่หมู่เกาะฟิลิปินส์

            2.

            ฟิลิปปินส์...ดินแดนมากกว่า 7000 เกาะ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก  เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา...

            พิทักษ์ไปตลาดปลาบนเกาะลูซอนตามที่พ่อแนะนำไปกับคนรู้จัก  เขาเห็นการค้าปลาทูนาขนาดตัวไม่ใหญ่  หนักราวยี่สิบถึงสามสิบกิโลกรัม  ปลาทั่วๆไปส่วนมากจะมีเนื้อสีขาว  แต่ปลาทูนาจะมีเนื้อสีแดง  ราคาของมันขึ้นกับคุณภาพและสีเลือดของปลา  คนจับปลาขึ้นมาสดๆค้าขายกันที่ตลาดตรงท่าเรือ  ใช้แท่งเหล็กยาวๆขนาดเล็กกว่าตะเกียบหรือราวๆสี่ก้านไม้ขีดไฟรวมกัน  ในแท่งเหล็กมีรูกลวงเล็กๆ  พอทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อปลา  แล้วดึงออกมาจะเห็นเนื้อและสีเลือดปลาทูนาของตัวนั้น  แต่ละตัวมีเฉดสีแดงต่างๆกัน  ตัวไหนที่มีสีแดงเข้มจะจัดอยู่ในพวกเกรดเอเป็นปลาชั้นดี  ราคาจะแพงว่ากลุ่มปลาทูนาเนื้อสีแดงอ่อนหรือจางๆ  กลุ่มเนื้อเกรดเอหรือดีที่สุดจะส่งไปขายที่ญี่ปุ่น เกาหลีและยุโรป  เอาไปทำอาหารอย่างซูชิหรือปลาดิบ  เนื้อปลาเกรดซีจะส่งไปโรงงานทำปลากระป๋อง

            เขาไปยังไม่ประสา  ไม่มีความรู้เกี่ยวกับปลาทูนา  ค่อยๆศึกษาสั่งสมประสบการณ์  เป็นครั้งแรกที่ตามชาวประมงปินอยลงเรือลำไม่ใหญ่ออกไปจับปลากลางทะเลเวิ้งว้าง  มองไปทางไหนก็เห็นแต่น้ำจรดขอบฟ้าสีครามสวยงามจนเพลิดเพลินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  แสงแดดเจิดจ้าส่องกระทบพื้นผิวน้ำทะเลกว้างไกลสุดสายตาเป็นประกายวิบวับ  คนจับปลาใช้เหยื่อล่อปลาให้มาติดเบ็ด  บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับปลาได้ตามปรารถนา  หากหาปลาเข้าฝั่งไม่ได้และไม่มีปลาขายที่ตลาด  นั่นหมายถึงปากท้องของตัวเอง  ที่สำคัญคือคนที่รออยู่ข้างหลัง...ลูกและเมียที่ท้องรอไม่ได้

            “ดูปลาโลมาฝูงนั้นสิกำลังกระโดดขึ้นลง  เราคงไม่กลับบ้านมือเปล่าเป็นแน่”  เสียงของหนุ่มผิวเข้มวัยยี่สิบต้นๆชี้ชวนให้ดูฝูงปลาโลมาที่กระโดดขึ้นน้ำและพุ่งลงด้วยทีท่าสง่างามอย่างพร้อมเพรียงสมัครสมานสามัคคีกันทั้งฝูงไปในทิศทางเดียวเหมือนกับนัดกันไว้

            อีกคนบังคับเรือไปยังทิศทางของปลาโลมาฝูงนั้นที่กำลังดำผุดดำว่ายกลางคลื่นลูกแล้วลูกเล่าทันทีโดยไม่ต้องรอการตัดสินใจ

            “ทำไมต้องไปตรงนั้น”  พิทักษ์ถามขึ้นด้วยความสงสัย

            “ก็ตรงนั้นอุดมสมบูรณ์  ปลาโลมายังมาหากิน  ปลาทูนาก็ต้องอยู่แถวนั้น”  หนุ่มผิวเข้มตอบตามประสบการณ์ด้วยภาษาอังกฤษฉะฉานสำเนียงแปร่งๆ

            เรือจอดลอยลำโยกไหวไปมาตามแรงคลื่น  คนจับปลาติดเหยื่อวางเบ็ดลงน้ำใสสะอาด  ไม่นานนักปลามาติดเบ็ดอย่างที่คาดการณ์ไว้  คนวางเบ็ดออกแรง “เย่อ “กับปลาเต็มกำลัง  พอปลาอ่อนแรงลอยตัวขึ้นผิวน้ำ  อีกสองคนช่วยกันอุ้มปลาทูนาตัวใหญ่ขึ้นมาทันที  ตามด้วยเสียงร้องออกมาด้วยความดีอกดีใจ

            “เราได้ทูนาเยลโลฟีน  ตัวนี้หนักไม่น้อยกว่าสามสิบกิโลแน่”  คนอุ้มปลาขึ้นมากะคะเนน้ำหนักจนคุ้นเคย  เขาวางปลาตัวใหญ่ลงบนพื้น  มือลูบครีบสีเหลืองบนหลังด้วยรอยยิ้มปีติ

            พิทักษ์ได้เรียนรู้ถึงปลาทูนามีหลายสิบสายพันธุ์  แต่ที่นิยมเอามาบริโภคมีไม่ถึงสิบ  อย่างปลาทูนาบลูฟีนหรือครีบสีน้ำเงิน  ปลาทูนาสคิปแจ็กหรือปลาโอท้องแถบ  มีลายยาวตามลำตัว

            จากนั้นอีกสองวันพิทักษ์ต้องบินจากเกาะลูซอนทางตอนเหนือลงไปที่เกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ไปดูโรงงานปลากระป๋อง  เจ้าของเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของเขา  มีคนมารอรับอาคันตุกะที่สนามบินและพาตรงไปที่โรงงานใหญ่โตล้อมรอบด้วยกำแพงแข็งแรงสูงกว่าสี่เมตร  ทางเข้ามีคนเฝ้าสี่ห้าคนถือปืนไรเฟิลเตรียมพร้อมต่อกรและคุ้มครองความปลอดภัยหากเกิดการปล้นและบุกรุก  พิทักษ์ไม่แปลกใจกับการเมืองที่ไม่เสถียรหรือไม่มีความมั่นคงในดินแดนตากาล็อก  หน้าห้างสรรพสินค้าในเมืองหลวงอย่างมานิลาคนเฝ้าข้างหน้ามีอาวุธพร้อมมืออย่างทหาร  แรกๆก็นึกแปลกใจ  พอฟังจากคนฟิลิปปินส์จึงรู้ว่าการปล้นจี้เกิดขึ้นได้ทุกขณะ  แม้กระทั่งในรถจิ๊ปนีย์ที่ตกแต่งลวดลายแปลกตาข้างรถหรือรถสองแถวชานเมืองผู้โดยสารถูกจี้ปล้นกลางวันแสกๆอย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายทำราวกับเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน

            เพื่อนพ่อเป็นผู้ส่งออกปลากระป๋องรายใหญ่  ตั้งตัวสร้างฐานะร่ำรวยจากการค้าปลาทูนา  เขาต้อนรับพิทักษ์อบอุ่นดุจญาติคนหนึ่ง  ผู้ไปเยือนได้ดูขั้นตอนการทำปลากระป๋อง  เจ้าบ้านเป็นคนกว้างขวางในกลุ่มผู้ค้าขายปลา  เป็นพันธมิตรกับหมู่เกาะหลายประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้  อย่างหมู่เกาะโซโลมอนที่จับปลาเป็นรายได้หลัก  เขาใจดีถึงกับให้อีกฝ่ายติดเรือประมงออกทะเลไปจับปลาด้วย

            “พ่อ  จะให้พิทักษ์ออกไปกับเรือนานเป็นเดือนเชียวเหรอ”  ลูกชายคนโตเจ้าของโรงงานถามขึ้น

            เรือจะแล่นไปทางเกาะบอร์เนียวของอินโดนีเซีย  จะใช้เวลาจับปลาอยู่ในทะเลรอนแรมเป็นเดือน

            “ไม่เห็นยากเลย  ให้พิทักษ์ไปเห็นจากของจริง  จะได้เป็นประสบการณ์  อย่างมากสุดไม่เกินอาทิตย์  ให้เขากลับมากับเรือลำอื่นได้นี่นา  ไม่ต้องไปนานเป็นเดือน”  พ่อบอกลูกชายให้คลายสงสัย

            นอกจากทำปลากระป๋องส่งออกแล้ว  เจ้าของโรงงานแห่งนี้ยังมีเรือประมงของตัวเองออกจับปลาจนครบวงจร  ไม่ต้องพึ่งพาหาซื้อปลาทูนาจากบริษัทอื่นที่มีกองเรือจากประเทศหมู่เกาะอื่นๆส่งปลาให้  แต่บริษัทของพิทักษ์ต้องซื้อปลาจากบริษัทเหล่านั้น  อย่างบริษัทปลาที่เมืองเกาสงในไต้หวัน  หรือเมืองหนิงโปในมณฑลฟูเจี้ยนของประเทศจีน  พ่อของพิทักษ์เคยขอซื้อปลาจากโรงงานแห่งนี้ในฟิลิปปินส์  แต่เขาปฏิเสธ  เพราะปลาที่จับได้เขาผลิตลงกระป๋องจนหมด  ไม่เหลือไว้ขายให้ผู้อื่น

            เรือล่องออกไปไกลจนมองไม่เห็นฝั่ง  ไม่มีแผ่นดินใดๆ  นอกจากแผ่นน้ำที่กว้างสุดลูกหูลูกตาไปจรดแผ่นฟ้ากว้างสว่างสดใส  มีแต่น้ำและฟ้า  พิทักษ์อยู่ในเรือลำใหญ่  เห็นเรือลำอื่นๆแล่นสวนไปมา

            หนุ่มไทยเป็นคนนอบน้อม  อัธยาศัยดี  พูดจาถ่อมตัว  เป็นที่เอ็นดูของกัปตันเรือหรือไต้ก๋งวัยพ่อนามว่า “อะมาดิอุส” ชื่อนี้มีความหมายว่า “เป็นความรักของพระเจ้า  ไต้ก๋งนับถือคริสต์คาทอลิกอย่างคนฟิลิปปินส์ทั่วไป  เพราะประเทศเคยเป็นอาณานิคมของสเปนมาก่อน  จึงนับถือพระเยซูเจ้าตามผู้มายึดครอง  นักบวชมาวางรากฐานศาสนาคริสต์จนหยั่งรากลึกแน่นบนหมู่เกาะฟิลิปปินส์  กัปตันเรือรูปร่างล่ำเจ้าเนื้อตามประสาคนสูงวัย  เส้นผมเหลือน้อยบนศีรษะ  เป็นคนเจ้าระเบียบและเข้มงวดกับลูกเรือ  ขณะที่พูดคุยผู้สูงวัยมักให้ความรู้กับผู้อ่อนวัยกว่า  ชอบเล่าเรื่องประสบการณ์การเดินเรือให้ฟัง

            “ตอนนี้เรือของเรากำลังจะแล่นถึงเส้นศูนย์สูตรแล้ว”  กัปตันอะมาดิอุสพูดขึ้นขณะสายตาจ้องมองบนหน้าปัดทรงกลมแสดงพิกัดตำแหน่งของเรือ

            พิทักษ์ตื่นเต้น  เขายังไม่เคยบินข้ามเส้นศูนย์สูตรลงไปทางซีกโลกใต้มาก่อน  ส่วนมากวนเวียนอยู่ทางโซนเหนืออย่างยุโรป  อเมริกาและประเทศจีน  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะข้ามเส้นศูนย์สูตรบนเรือประมงลำนี้

            ไต้ก๋งมองไปที่หน้าจอเพื่อหาสัญญาณของกลุ่มปลาทูนาฝูงใหญ่  โซนาร์บอกความหนาแน่นของฝูงปลากลุ่มก้อนมหึมาในทะเลลึก  อะมาดิอุสยิ้มน้อยๆด้วยความกระหยิ่มใจ  เจ้าของโรงงานปลากระป๋องต้องพึงพอใจยิ่งนัก

            “เดี๋ยวนี้มีเครื่องทันสมัยช่วยจับปลาได้มากและง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย  เราเช่าสัญญาณจากดวงเทียม  ใช้เรดาร์หาตำแหน่งปลา  แล้วยังมีเครื่องกระตุ้นปลาขึ้นมาให้จับแต่โดยดีอีกด้วย”  กัปตันบอก

            “สัญญาณบอกว่าข้างหน้าโน่นมีฝูงปลาหนาแน่น  เข้าไปใกล้เตรียมลงอวน”  กัปตันสั่งเสียงเข้ม

            พิทักษ์รู้สึกตื่นเต้นกับจอเรดาร์ที่เห็นความเคลื่อนไหวของฝูงปลา  ในใจนึกฮึกเหิม  เร่งให้เรือแล่นตามไปจับปลาทูนาฝูงใหญ่นั้นให้ได้  เขานึกถึงเนื้อปลาแต่ละตัวตัดเป็นชิ้นเล็กๆลงในกระป๋อง  แล้วส่งออกไปยังขายยังปลายทางทั่วโลก  นั่นหมายถึงผลกำไรมากมายที่เป็นตัวเงิน

            “ปลาทูนารูปร่างเพรียวคล้ายกระสวย  ว่ายน้ำเร็วมากเหมือนจรวดเลย”  กัปตันเปรยขึ้น

            “ยังไงก็ต้องจับมันให้ได้”  พิทักษ์พูดเสียงหนักแน่นและมั่นใจ

เมื่อไปถึงพิกัดที่เรดาร์บ่งบอก  ลูกเรือล้วนเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์รูปร่างกำยำแข็งแรงลงอวนลอยอย่างรู้งานและรู้หน้าที่ของตัวเอง  จะไม่ยอมปล่อยให้ปลาทูนาฝูงใหญ่นี้หายไปเป็นอันขาด  เมื่อเหยื่อหลงเข้าในอวนล้อมแล้วก็ปิดก้นอวนทันที  พอยกอวนขึ้นและเทปลาออกมา  ปลาทูนากองเต็มไปทั่วลำเรือ  ไม่รอช้าเอาปลาทูนาดองน้ำเกลือก่อนเก็บเข้าไปในห้องแช่แข็งทันทีเพื่อรักษาสภาพของเนื้อปลา  ไม่ให้เน่าเสีย

กลับจากฟิลิปปินส์ในครั้งนั้นพิทักษ์ยังติดต่อพูดคุยกับกัปตันอะมาดิอุสผ่านทางวอตส์แอปป์เรื่อยมา  ถามไถ่ถึงปริมาณปลาทูนาในทะเล  แทบทุกครั้งไต้ก๋งมักอยู่ในเรือกลางมหาสมุทร

3.

พ่อส่งลูกชายให้ไปเรียนรู้และหาประสบการณ์แล้ว  ใช่ว่าจะจบเพียงเท่านั้น  ยังมีโจทย์และแบบฝึกหัดที่พิทักษ์ต้องแก้อีกมากมาย  ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัวอย่างในวิชาคณิตศาสตร์  แม่มีส่วนบอกเล่าเรื่องราวให้ลูกชายที่จะเป็นผู้สืบทอดกิจการของครอบครัวฟังด้วย  ช่วยกันประคับประคองกันไป

“ปลาทูนาตัวนึงจะหั่นหรือแล่ออกมาอย่างไรต้องคิดเสียก่อน  และแต่ละชิ้นจะหั่นลงกระป๋องให้ได้มากที่สุดอย่างลงตัว  ไม่ให้เสียเนื้อปลาหรือเป็นเศษๆ  จะมาหั่นตามใจชอบไม่ได้  แม่เป็นช่างตัดเสื้อมาก่อน  ก่อนตัดเย็บต้องคิดเสมอว่าจะวางแพทเทิร์นบนผ้าอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียเนื้อผ้าไปโดยไร้ประโยชน์  การตัดเนื้อปลาเป็นชิ้นๆก็คล้ายๆกัน”

พ่อแม่ผ่านเรื่องราวรู้ร้อนรู้หนาวมาก่อน  ได้เรียนรู้กับปู่ย่า  เขาเองต้องมาสานต่อเก็บเกี่ยวเพื่อจะส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน

“ตอนแม่แต่งงานมาเป็นสะใภ้  ย่าเอ็งก็สอนแม่ไว้ไม่น้อย  ต้องจดจำและเอามาใช้  ปลาทูนาตัวโตเรียวยาวหนักกว่าสี่สิบห้าสิบกิโลที่เราซื้อมาทำปลากระป๋อง  เราเน้นที่เนื้อเป็นสำคัญ  แต่ส่วนอื่นที่ไม่ใช่เนื้อและจะทิ้งไป  มันน่าเสียดายมาก  ทุกอย่างเป็นตัวเงินทั้งนั้น”  แม่บอกลูกชายที่ตั้งใจฟัง

            “อย่างหัวปลายังมีเนื้อที่แล่ออกมาทำอาหารได้  ทำหัวปลาหม้อไฟหรือข้าวต้มหัวปลาอร่อยมาก  พ่อเอ็งชอบกิน  หรือจะเอาหัวปลาขายทิ้งเป็นเศษอาหาร  เลือดปลามีแร่ธาตุเหล็กและสังกะสี  ขายให้โรงงานอื่นเอาไปทำเป็นอาหารแมว  บางโรงงานก็มารับซื้อก้างปลาออกไปทำเป็นเศษปลาป่นเอาไปเป็นอาหารเลี้ยงปลา  เครื่องในขายไปเป็นเหยื่อตกปลา  มีคนมารอซื้อถึงที่  น้ำนึ่งปลาก็ทิ้งไม่ได้  เอาไปทำซีอิ๊วหรือเครื่องปรุงรสได้  ทุกอย่างในตัวปลาทูนาสามารถแปลงเป็นเงินได้หมด”  แม่พูดช้าๆชัดทุกถ้อยคำ

            “เราต้องใช้ประโยชน์สูงสุด  อย่าใช้อย่างทิ้งขว้างไม่เห็นคุณค่าราคาของมัน  กว่าปลาจะเกิดเป็นตัว  มันต้องหาอาหารกินและว่ายอยู่ในทะเลน้ำลึกจนเติบใหญ่  ผ่านวันเวลามาหลายปี  มันเป็นหนึ่งในปลาที่มีค่ามากที่สุดในทะเล  เลี้ยงคนทั้งโลกเชียวนา”

            แรกๆพิทักษ์ไม่เคยรู้ว่าทุกส่วนของปลาทูนาจะมีคุณค่าและใช้บริโภคได้ทั้งหมด  เขาเห็นปลาทูนามาแต่เด็ก  เติบโตมากับโรงงานปลากระป๋อง  ไม่เคยนึกสนใจ  นอกจากเรียนหนังสือไปวันๆ  แบมือขอเงินพ่อแม่ซื้อของที่อยากได้  มาถึงวันนี้ได้รับรู้เรื่องราวมากมายของปลาทูนาที่มีส่วนช่วยให้เขาเติบใหญ่และอิ่มปากอิ่มท้อง  พิทักษ์รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณปลาทูนาอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน

            4.

            หลังๆมานี้เกิดวิกฤตปลาทูนาที่เคยจับได้มากมายกลับลดน้อยถอยลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  กลายเป็นปัญหาที่โรงงานกระป๋องหาซื้อปลาไม่ได้  ผู้ค้าสั่งเข้ามา  แต่ไม่อาจผลิตส่งไปได้ตามต้องการ  พิทักษ์ติดต่อที่บริษัทขายปลาทูนาที่เกาสงและหนิงโป  เขาก็ไม่มีปลาขายให้  ต่างรุมกันแย่งซื้อจนราคาปลาทูนาพุ่งสูงขึ้นมาเหมือนอยู่ในตลาดหุ้น  ความต้องการมีมากเกินกว่าปลาที่มีเพียงหยิบมือเดียว

            พิทักษ์โทรวอตส์แอปป์ไปคุยกับกัปตันอะมาดิอุส  ไต้ก๋งอยู่ในเรือกลางมหาสมุทรอย่างเคย

            “ตอนนี้เราอยู่ในใกล้เส้นศูนย์สูตรที่นายเคยมากับเรือลำนี้”  เขาพูดเสียงดังแข่งกับลมโบกพัดแรงตึงตังรัวๆเป็นระลอกไม่ยอมหยุดเหมือนคนโกรธกันและเถียงกันไม่ยอมจบง่ายๆ

            พิทักษ์ได้ยินเสียงลมนั้นด้วย  เขาพอจะรู้สึกถึงไอของลมร้อนนั้นได้ไม่ลืม

            “เดี๋ยวนี้นับวันลมพัดแรงเหมือนจะเป็นพายุเลย  นี่แหละโลกร้อนโลกเดือดแล้ว  ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป  คงโทรมาถามเรื่องปลาทูนาล่ะสิ”  กัปตันรู้ทันเพราะเรื่องปลาลดน้อยลงเป็นปัญหาของเจ้าของโรงงานที่กำลังปวดหัวและแก้กันไม่ตก  แม้กระทั่งเจ้าของเรือก็ยังโทรมาถามเช้าเย็นหลังอาหารสามเวลาว่าจับปลาได้มากน้อยเท่าไหร่  พอบอกว่าจับได้ไม่มาก  ดูเจ้าของจะไม่พอใจอารมณ์เสียและหงุดหงิดทันที

            “ที่ผ่านมาบางปีก็มีปลาเยอะมาก  บางปีปลาก็หายไป  แล้วอีกปีก็กลับมามีมากเหมือนเดิม  แต่นี่ปลาลดน้อยหายไปจากเมื่อก่อนเยอะมาก”  อะมาดิอุสพูดตามตรงจากประสบการณ์ที่ผ่านมา

            พิทักษ์ตามข่าวเรื่องโลกร้อนหรือโลกเดือดผ่านมาทางสื่อสังคมหรือโซเชียลมีเดีย  เรื่องโลกร้อนหรือโลกเดือดเป็นปัญหาวิกฤตที่คนบนโลกกำลังเผชิญ  อุณหภูมิสูงขึ้นเพราะการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและโรงงานใหญ่ๆทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วขึ้น  น้ำจืดเพิ่มมากขึ้น  การไหลเวียนของน้ำในทะเลเปลี่ยนไปทำให้มีผลกับกระแสน้ำสายต่างๆในทุกมหาสมุทร  นำไปสู่ภัยพิบัติ  ระบบนิเวศได้รับผลกระทบรุนแรง  สัตว์น้ำต่างๆในทะเล...รวมทั้งปลาทูนาที่ลดลงฮวบฮาบจนน่าใจหาย

            “รู้หรือยังว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนือที่กรีนแลนด์กำลังละลายเร็วกว่าที่ควรจะเป็นเพราะโลกร้อน  ทำให้กระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกเปลี่ยนไป  ปลาทูนาทางนั้นก็ลดหายไปด้วย  ทะเลทางเหนือของรัสเซียที่เคยเป็นน้ำแข็ง  ตอนนี้ละลายจนเดินเรือได้แล้ว”  ไต้ก๋งชอบคุยกับพิทักษ์  เอ็นดูเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง  เขาชอบในอัธยาศัยความนอบน้อมและให้ความเคารพผู้ใหญ่ของชายหนุ่มรุ่นลูก

            “ครับ  เห็นเป็นข่าว  เขาจะจัดประชุมใหญ่ถกกันและจะแก้ปัญหาโลกร้อน”  พิทักษ์บอก

            “ทวีปแอนตาร์กติกาที่ขั้วโลกใต้ก็มีปัญหาเดียวกัน  ธารน้ำแข็งทเวตส์ก็ละลายแตกออกมา  ทำให้น้ำท่วม  อย่างประเทศตูวาลูที่เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังจมน้ำไร้ที่อยู่เพราะโลกร้อน  อีกหน่อยก็ถึงคราวน้ำท่วมเมืองมานิลาและก็ถึงกรุงเทพฯด้วย”  กัปตันพูดหยอกๆแกมเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  ต่างจากคลื่นลูกโตๆโยนตัวไปมากับเสียงลมพัดดังโหวกเหวกเอะอะโวยวายเหมือนทะเลาะกัน

            “อย่าพูดเป็นเล่นไป  นักวิทยาศาสตร์บอกว่าจะเกิดน้ำท่วมจริงๆกับเมืองใหญ่ในโลกนี้”  พิทักษ์ว่า

            “เดี๋ยวก่อน  มีสัญญาณปลาทูนาฝูงนึง  ดูแล้วไม่มากเหมือนก่อน”  กัปตันเปลี่ยนเรื่องทันที

            พิทักษ์จำได้ว่าครั้งแรกที่ติดเรือไปกับกัปตันอะมาดิอุส  พอเห็นโซนาร์บอกความหนาแน่นของฝูงปลาทูนา  ใจของเขาฮึกเหิมร้องบอกให้ตามจับให้หมด  แต่ครั้งนี้ความรู้สึกเช่นนั้นหายไป  เขาอยากให้ปลาทูนาฝูงนั้นว่ายให้เร็วราวติดจรวด...ว่ายหนีไปให้สุดขอบมหาสมุทรที่มนุษย์ตามไปจับมันไม่ได้  ว่ายดำดิ่งให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้  อย่าตกเป็นเหยื่อของเครื่องกระตุ้นให้พวกมันว่ายขึ้นมาติดอวนล้อม

            “ว่ายไปให้ไกลที่สุด...สุดแผ่นน้ำ  ว่ายดำให้ลึกที่สุดจนคนตามจับไม่ได้”  พิทักษ์ร้องบอกเชียร์ปลาทูนาฝูงนั้นอยู่ในใจ  มันอาจเป็นปลาทูนาฝูงสุดท้ายของโลกก็ได้

            5.

            “ตกลงที่สั่งปลากระป๋องอีกห้าตู้จะได้มั้ย”  เสียงของโมเชดังมาจากประเทศอิสราเอล

            “เมื่อวานราไบจาคอบได้ตรวจสอบอาหารตามหลักโคเชอร์เรียบร้อยแล้ว  พร้อมส่งเพียงตู้เดียว”

            “อะไรกัน  ทำไมไม่ได้ตามที่สั่งไว้”  อีกฝ่ายเริ่มหัวเสีย  น้ำเสียงบอกไม่พอใจ

            “หาปลาไม่ได้ครับ”  พิทักษ์พูดตามจริง

            “อย่างนั้นเราคงต้องสั่งจากที่อื่น”  โมเชบอกเสียงกร้าว  “ส่งตู้ที่เสร็จแล้วมาก่อนเลย”

            พิทักษ์ไม่โต้เถียง  ด้วยรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตอนนี้โรงงานอื่นก็ขาดแคลนปลาทูนา  และเขาก็ไม่ได้ทำการค้ากับโมเชเพียงเจ้าเดียว  ยังมีบริษัทอื่นๆอีกที่เขาต้องปันส่วนไปให้  ชายหนุ่มมั่นใจว่าอย่างไรเสียโมเชคงไม่ตัดเป็นตัดตายกับโรงงานของเขาเป็นแน่

            6.

            หมู่เกาะมัลดีฟส์  บริเวณเส้นศูนย์สูตร  มหาสมุทรอินเดีย

            ท้องฟ้าสีครามสวยสว่างเจิดจ้าจรดกับผืนน้ำสะอาดราวกระจกใสกว้างไกลสุดสายตาแล  น้ำกระเพื่อมส่งเสียงอ่อนหวานเบาๆเหมือนจะทักทายหยอกล้อกับท้องฟ้า  แดดทอแสงแรงร้อนจนเหงื่อซึม

            พิทักษ์ติดเรือชาวประมงออกไปตกปลาทูนา  เขาลอยเรือในจุดที่ฝูงนกบินลงมาโฉบกินปลา  ปลาทูนากลุ่มใหญ่มาว่ายวนเวียนอยู่แถวๆนั้น  ในมือชาวประมงผิวคล้ำแดดถือเบ็ดคันยาว  ตะขอปลายเบ็ดติดเหยื่อพร้อม  จากนั้นก็โยนเหยื่อไปบนผิวน้ำเพื่อล่อ “เหยื่อ” อีกกลุ่มที่จะมาติดกับ  ฝูงปลาทูนาสับสนระหว่างเหยื่อล่อกับตะขอ  แล้วลูกเรือก็ตวัดเบ็ดพร้อมปลาทูนาขึ้นมาที่ท้องเรืออย่างง่ายดาย  แล้วตวัดเบ็ดลงทะเล...และตวัดขึ้น  หนุ่มลูกเรือห้าคนตวัดเบ็ดขึ้นลงจับปลาจนเต็มลำ  แม้จะต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงจะได้ปริมาณปลาจับด้วยอวนล้อมหนึ่งครั้ง  พิทักษ์พอใจการจับปลาทูนาด้วยวิธีใช้เบ็ดอย่างพื้นบ้านเสียมากกว่า  เพราะเป็นการทำประมงที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับมหาสมุทร  เขาเคยเห็นชาวประมงใช้อวนลากไปตามผิวน้ำ  มีสัตว์น้ำที่ไม่ต้องการติดมา  อย่างปลาฉลาม  ปลาโลมา  เต่าและสัตว์น้ำอีกหลายชนิด  ซึ่งเป็นการทำลายสัตว์น้ำสายพันธุ์อื่นๆ

            น้ำทะเลกระทบแสงแดดส่องประกายวิบวับ  ชายหนุ่มเหมือนได้ยินเสียงทะเลส่งสัญญาณและบอกกับคนเราว่า...สักวันหนึ่งปลาอาจจะหมดจากท้องทะเลก็ได้  หากคนเรายังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักล่าที่ทำลายระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมไม่หยุดหย่อน  เราต้องฟังและยอมรับมัน  ทะเลจะได้มีทรัพยากรให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อๆไป

            พิทักษ์นึกออกแบบกระป๋องปลาทูนารุ่นใหม่ด้วยตัวเอง  อุตสาห์ร่ำเรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์มา  อย่างน้อยขอใช้วิชาความรู้มาออกแบบสักครั้ง  นึกถึงภาพทะเลจรดท้องฟ้าและปลาทูนาตัวเรียวยาวอวบอ้วนกับครีบสวยงาม  ข้างกล่องจะพิมพ์คำว่า “Pole and Line” เป็นการบอกให้ผู้บริโภครับรู้ว่าปลาทูนาในกระป๋องจับด้วยการใช้เบ็ดตวัด  ทั้งยังบอกที่มาของทะเลแห่งนั้นด้วย

            เขายิ้มน้อยๆด้วยความหวังเต็มเปี่ยมท่ามกลางผืนน้ำจรดผืนฟ้ากว้างไกล


968