แผ่นน้ำจรดแผ่นฟ้า โดย สมศักดิ์ มงคลมหาชัย
แผ่นน้ำจรดแผ่นฟ้า
ส.เทพรำเพย
1.
สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
พิทักษ์ไปรับราไบจาคอบที่สนามบิน ผู้มาเยือนสวมเสื้อผ้าสีดำทั้งชุด ดวงตากลมโตนิ่งอย่างคนมีสมาธิแฝงด้วยมุมมองและประสบการณ์มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จมูกโด่งเป็นสันยาวจนมองดูหล่อเข้ม ใบหน้ามีหนวดเครารุงรัง...ตัดเล็มเป็นทรงเท่อยู่ไม่น้อย ที่มองดูเด่นคือหมวกกิปปาที่สวมอยู่กลางหัวเป็นหย่อม คนมารอรับกล่าวต้อนรับทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้ม แต่อีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกยินดีด้วย ใบหน้าเรียบเฉย พยักหน้าน้อยๆ แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าตรงไปที่โรงงานปลากระป๋องจังหวัดสมุทรสาครทันที
ราไบจาคอบอยู่ในวัยสี่สิบต้นๆ เขาคุ้นเคยกับผู้ไปต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่รู้จักกัน ทั้งสองร่วมงานกันมาหลายครั้งแล้ว คนในโรงงานเรียกราไบว่าพระ จริงๆแล้วราไบไม่ใช่พระหรือนักบวชของคนยิว แต่เป็นผู้มีบทบาททำหน้าที่ในการควบคุมอาหารให้ได้มาตรฐานสะอาดถูกต้องตามกฎของศาสนายูดาย และรับรองด้วยเครื่องหมายอาหารโคเชอร์สำหรับคนยิว จาคอบเชี่ยวชาญเรื่องสัตว์น้ำ ปลาที่บริโภคต้องมีครีบและเกล็ด อย่างปลาทูนา ปลาแซลมอนและปลาแฮริ่ง ราไบจาคอบจะไปรับรองอาหารโคเชอร์อย่างเนื้อหรืออื่นๆไม่ได้ ราไบแต่ละคนร่ำเรียนและชำนาญด้านต่างๆกันไป
ครอบครัวของพิทักษ์ทำโรงงานปลาทูนากระป๋องส่งออกขายต่างประเทศมาตั้งแต่รุ่นปู่ จริงๆเขาไม่ชอบงานของพ่อแม่ที่ทำอยู่ ชายหนุ่มเรียนจบทางด้านออกแบบผลิตภัณฑ์มา อยากทำงานทางด้านออกแบบเสียมากกว่า แต่ก็สู้คำขอร้องแกมบังคับของผู้ให้กำเนิดไม่ได้ เขาเป็นลูกคนโตที่จำต้องสืบทอดกิจการของครอบครัวต่อไป...และอาจสืบทอดไปถึงรุ่นลูกของเขาอีกด้วย
ขณะที่คนงานกำลังกรำงานอย่างเข้มงวดตามลำดับขั้นตอนที่ราไบวางไว้แต่แรก เริ่มจากทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆด้วยน้ำร้อน โต๊ะเขียงหั่นปลาและมีดต้องสะอาดอย่างสุดๆ การขูดเนื้อปลาถลกหนังและถอดก้างออกอยู่ในการควบคุมเวลาอย่างรีบเร่ง หากนานเกินเนื้อปลาจะไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถจัดเข้าเป็นอาหารโคเชอร์ได้ แล้วลำเลียงชิ้นปลาบรรจุลงในกระป๋อง จาคอบหันมาตรวจน้ำมันกับเกลือที่ต้องได้มาตรฐานโคเชอร์มาก่อนแล้ว จากนั้นเข้าตู้ฆ่าเชื้อ หมุนสวิทช์ แล้วยิงบาร์โค้ดข้างกระป๋องก่อนจะลำเลียงลงกล่องพร้อมส่งออกไปยังปลายทาง
เสียงสัญญาณอีเมล์ดังขึ้นในโทรศัพท์มือถือของพิทักษ์ พอยกขึ้นเปิดอ่านข้อความจึงรู้ว่าส่งมาจากเยรูซาเล็มในอิสราเอล ผู้ส่งเป็นคู่ค้าสั่งซื้อปลาทูนากระป๋องรายใหญ่ของบริษัทครอบครัวพิทักษ์ ทางนั้นสั่งเพิ่มอีกห้าตู้คอนเทนเนอร์ เน้นมาว่าขอด่วนและอยากได้ภายในเดือนหน้า
พิพักษ์รู้ว่าโมเชคู่ค้าเป็นคนเจ้าอารมณ์และเอาแต่ใจตัวเอง หากไม่ได้อย่างใจฝ่ายนั้นจะขู่ทันทีว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอื่น เมโชมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของพิทักษ์อยู่ในวัยกลางคน อารมณ์ปรวนแปรยิ่งกว่าคลื่นลมในมหาสมุทรและลมพายุในทะเลทรายเสียอีก เขาเป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของอิสราเอล ครั้งหนึ่งโมเชเคยทำอย่างที่ขู่พิทักษ์ไว้ เปลี่ยนไปสั่งปลาทูนาจากที่อื่น แต่ในที่สุดก็ต้องหันกลับมาค้าขายกับผู้ผลิตเมืองยิ้มดังเดิม ด้วยรู้อยู่เต็มอกว่าผู้ขายรักษาคุณภาพสินค้าอย่างเต็มที่ ราคาก็ไม่ได้แพงหรือกระโดดสูงล้ำจากผู้แข่งรายอื่น ทั้งอัธยาศัยของคนไทยก็อ่อนน้อมและอะลุ่มอล่วยผ่อนหนักผ่อนเบาให้ลูกค้าผู้สั่งซื้อยอมแพ้และยอมถอยหลังไปสักก้าวสองก้าวใด้บ้างอย่างไม่ต้องเสียหน้า ทั้งๆที่โมเชเป็นคนแข็งไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ใด เป็นคนประเภทยอมหักไม่ยอมงอ แต่ก็ยอมยกธงขาวให้กับลูกเล่นลูกชนของพิทักษ์บางครั้งคราว
“ขอให้รีบส่งของมาให้ด่วนหรือเร็วที่สุด” โมเชคุยกับพิทักษ์ทางวอตส์แอปป์เมื่อสัปดาห์ก่อน
“ผมไม่รับปาก เพราะปลาหายากมาก” เขาบอกสาเหตุตามจริงที่เกิดขึ้นในท้องทะเล
พิทักษ์ตั้งข้อสังเกตว่าปลาในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลเริ่มลดน้อยลงอย่างมากจนไม่น่าเชื่อ บางครั้งบางปีจับปลาไม่ได้ตามความต้องการของผู้สั่งซื้อและผู้บริโภค เขาเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในทะเลที่เคยอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ในน้ำคณานับเริ่มเปลี่ยนไป
“ยังไงก็ต้องหาให้ได้และรีบส่งมา ใครบอกว่าสงครามขายของยาก แต่ทางเราต้องการอาหารกระป๋อง โดยเฉพาะปลาทูนากระป๋อง ตอนนี้กำลังจะขาดตลาด อาหารสำคัญไม่แพ้อาวุธหรอก กองทัพต้องเดินด้วยท้องอย่างที่นโปเลียนบอกไว้ไม่ผิด” โมเชเน้นประโยคหลังชัดถ้อยชัดคำเสียงดังฟังชัด
จริงๆผู้สั่งซื้อค่อนข้างแน่ใจว่าสงครามจะดำเนินยืดเยื้อต่อไปอีกยาวนาน ไม่มีทีท่าจะยุติหรือสงบลงอย่างง่ายๆ หากยังอยู่บนแผ่นดินที่มีความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านรอบด้าน อย่างไรเสียก็ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้รบรากันอย่างไม่มีวันจบสิ้น การมีอาหารสำรองไว้ให้เพียงพอจะดีกว่าขาดแคลน ไม่เพียงแต่ในประเทศบ้านเกิดของโมเชเองที่เกิดการสู้รบมาตลอด แทบจะไม่มีเวลาพักเหนื่อยด้วยซ้ำไป แล้วยังภูมิภาคอื่นๆในโลกนี้ที่มองไปทางไหนบนแผนที่โลกก็เห็นสงครามคุกรุ่นไปตามจุดต่างๆแทบจะทุกทวีป อาหารและของกินมีความสำคัญและจำเป็นไม่แพ้อย่างอื่นเลย
“เห็นข่าวสงครามกำลังยิงกันอยู่ ที่นั่นไม่อันตรายหรอกเหรอ” พิทักษ์อดเป็นห่วงไม่ได้
“ที่นี่เยรูซาเล็ม ไม่ได้รบกันที่นี่ เขายิงกันรอบนอก ไม่ต้องสนใจหรอก รีบหาปลาทูนาใส่กระป๋องให้ถูกหลักอาหารโคเชอร์แล้วส่งมาดีกว่า” โมเชพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนรำคาญอีกฝ่าย
เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตกลัวจะไม่ได้สินค้า นั่นหมายถึงเงินกำไรมากโขจะหายไปในพริบตา เขาได้ดีดลูกคิดรางแก้วไว้ล่วงหน้าแล้ว ถึงได้พยายามเร่งให้ฝ่ายผลิตรีบส่งสินค้าให้เร็วที่สุด
นับเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วที่พิทักษ์อยู่ในวงการหรือแวดวงของผู้ค้าปลาทูนา จากที่เคยศึกษาและรักการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องหันมาเรียนรู้และทำความรู้จักกับปลาทูนา การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น ยังมีให้ค้นหาอีกมากมาย ตอนนั้นพ่อส่งลูกชายไปเรียนรู้และการทำปลากระป๋องกับเพื่อนสนิทที่หมู่เกาะฟิลิปินส์
2.
ฟิลิปปินส์...ดินแดนมากกว่า 7000 เกาะ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา...
พิทักษ์ไปตลาดปลาบนเกาะลูซอนตามที่พ่อแนะนำไปกับคนรู้จัก เขาเห็นการค้าปลาทูนาขนาดตัวไม่ใหญ่ หนักราวยี่สิบถึงสามสิบกิโลกรัม ปลาทั่วๆไปส่วนมากจะมีเนื้อสีขาว แต่ปลาทูนาจะมีเนื้อสีแดง ราคาของมันขึ้นกับคุณภาพและสีเลือดของปลา คนจับปลาขึ้นมาสดๆค้าขายกันที่ตลาดตรงท่าเรือ ใช้แท่งเหล็กยาวๆขนาดเล็กกว่าตะเกียบหรือราวๆสี่ก้านไม้ขีดไฟรวมกัน ในแท่งเหล็กมีรูกลวงเล็กๆ พอทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อปลา แล้วดึงออกมาจะเห็นเนื้อและสีเลือดปลาทูนาของตัวนั้น แต่ละตัวมีเฉดสีแดงต่างๆกัน ตัวไหนที่มีสีแดงเข้มจะจัดอยู่ในพวกเกรดเอเป็นปลาชั้นดี ราคาจะแพงว่ากลุ่มปลาทูนาเนื้อสีแดงอ่อนหรือจางๆ กลุ่มเนื้อเกรดเอหรือดีที่สุดจะส่งไปขายที่ญี่ปุ่น เกาหลีและยุโรป เอาไปทำอาหารอย่างซูชิหรือปลาดิบ เนื้อปลาเกรดซีจะส่งไปโรงงานทำปลากระป๋อง
เขาไปยังไม่ประสา ไม่มีความรู้เกี่ยวกับปลาทูนา ค่อยๆศึกษาสั่งสมประสบการณ์ เป็นครั้งแรกที่ตามชาวประมงปินอยลงเรือลำไม่ใหญ่ออกไปจับปลากลางทะเลเวิ้งว้าง มองไปทางไหนก็เห็นแต่น้ำจรดขอบฟ้าสีครามสวยงามจนเพลิดเพลินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แสงแดดเจิดจ้าส่องกระทบพื้นผิวน้ำทะเลกว้างไกลสุดสายตาเป็นประกายวิบวับ คนจับปลาใช้เหยื่อล่อปลาให้มาติดเบ็ด บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับปลาได้ตามปรารถนา หากหาปลาเข้าฝั่งไม่ได้และไม่มีปลาขายที่ตลาด นั่นหมายถึงปากท้องของตัวเอง ที่สำคัญคือคนที่รออยู่ข้างหลัง...ลูกและเมียที่ท้องรอไม่ได้
“ดูปลาโลมาฝูงนั้นสิกำลังกระโดดขึ้นลง เราคงไม่กลับบ้านมือเปล่าเป็นแน่” เสียงของหนุ่มผิวเข้มวัยยี่สิบต้นๆชี้ชวนให้ดูฝูงปลาโลมาที่กระโดดขึ้นน้ำและพุ่งลงด้วยทีท่าสง่างามอย่างพร้อมเพรียงสมัครสมานสามัคคีกันทั้งฝูงไปในทิศทางเดียวเหมือนกับนัดกันไว้
อีกคนบังคับเรือไปยังทิศทางของปลาโลมาฝูงนั้นที่กำลังดำผุดดำว่ายกลางคลื่นลูกแล้วลูกเล่าทันทีโดยไม่ต้องรอการตัดสินใจ
“ทำไมต้องไปตรงนั้น” พิทักษ์ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็ตรงนั้นอุดมสมบูรณ์ ปลาโลมายังมาหากิน ปลาทูนาก็ต้องอยู่แถวนั้น” หนุ่มผิวเข้มตอบตามประสบการณ์ด้วยภาษาอังกฤษฉะฉานสำเนียงแปร่งๆ
เรือจอดลอยลำโยกไหวไปมาตามแรงคลื่น คนจับปลาติดเหยื่อวางเบ็ดลงน้ำใสสะอาด ไม่นานนักปลามาติดเบ็ดอย่างที่คาดการณ์ไว้ คนวางเบ็ดออกแรง “เย่อ “กับปลาเต็มกำลัง พอปลาอ่อนแรงลอยตัวขึ้นผิวน้ำ อีกสองคนช่วยกันอุ้มปลาทูนาตัวใหญ่ขึ้นมาทันที ตามด้วยเสียงร้องออกมาด้วยความดีอกดีใจ
“เราได้ทูนาเยลโลฟีน ตัวนี้หนักไม่น้อยกว่าสามสิบกิโลแน่” คนอุ้มปลาขึ้นมากะคะเนน้ำหนักจนคุ้นเคย เขาวางปลาตัวใหญ่ลงบนพื้น มือลูบครีบสีเหลืองบนหลังด้วยรอยยิ้มปีติ
พิทักษ์ได้เรียนรู้ถึงปลาทูนามีหลายสิบสายพันธุ์ แต่ที่นิยมเอามาบริโภคมีไม่ถึงสิบ อย่างปลาทูนาบลูฟีนหรือครีบสีน้ำเงิน ปลาทูนาสคิปแจ็กหรือปลาโอท้องแถบ มีลายยาวตามลำตัว
จากนั้นอีกสองวันพิทักษ์ต้องบินจากเกาะลูซอนทางตอนเหนือลงไปที่เกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ไปดูโรงงานปลากระป๋อง เจ้าของเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของเขา มีคนมารอรับอาคันตุกะที่สนามบินและพาตรงไปที่โรงงานใหญ่โตล้อมรอบด้วยกำแพงแข็งแรงสูงกว่าสี่เมตร ทางเข้ามีคนเฝ้าสี่ห้าคนถือปืนไรเฟิลเตรียมพร้อมต่อกรและคุ้มครองความปลอดภัยหากเกิดการปล้นและบุกรุก พิทักษ์ไม่แปลกใจกับการเมืองที่ไม่เสถียรหรือไม่มีความมั่นคงในดินแดนตากาล็อก หน้าห้างสรรพสินค้าในเมืองหลวงอย่างมานิลาคนเฝ้าข้างหน้ามีอาวุธพร้อมมืออย่างทหาร แรกๆก็นึกแปลกใจ พอฟังจากคนฟิลิปปินส์จึงรู้ว่าการปล้นจี้เกิดขึ้นได้ทุกขณะ แม้กระทั่งในรถจิ๊ปนีย์ที่ตกแต่งลวดลายแปลกตาข้างรถหรือรถสองแถวชานเมืองผู้โดยสารถูกจี้ปล้นกลางวันแสกๆอย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายทำราวกับเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน
เพื่อนพ่อเป็นผู้ส่งออกปลากระป๋องรายใหญ่ ตั้งตัวสร้างฐานะร่ำรวยจากการค้าปลาทูนา เขาต้อนรับพิทักษ์อบอุ่นดุจญาติคนหนึ่ง ผู้ไปเยือนได้ดูขั้นตอนการทำปลากระป๋อง เจ้าบ้านเป็นคนกว้างขวางในกลุ่มผู้ค้าขายปลา เป็นพันธมิตรกับหมู่เกาะหลายประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ อย่างหมู่เกาะโซโลมอนที่จับปลาเป็นรายได้หลัก เขาใจดีถึงกับให้อีกฝ่ายติดเรือประมงออกทะเลไปจับปลาด้วย
“พ่อ จะให้พิทักษ์ออกไปกับเรือนานเป็นเดือนเชียวเหรอ” ลูกชายคนโตเจ้าของโรงงานถามขึ้น
เรือจะแล่นไปทางเกาะบอร์เนียวของอินโดนีเซีย จะใช้เวลาจับปลาอยู่ในทะเลรอนแรมเป็นเดือน
“ไม่เห็นยากเลย ให้พิทักษ์ไปเห็นจากของจริง จะได้เป็นประสบการณ์ อย่างมากสุดไม่เกินอาทิตย์ ให้เขากลับมากับเรือลำอื่นได้นี่นา ไม่ต้องไปนานเป็นเดือน” พ่อบอกลูกชายให้คลายสงสัย
นอกจากทำปลากระป๋องส่งออกแล้ว เจ้าของโรงงานแห่งนี้ยังมีเรือประมงของตัวเองออกจับปลาจนครบวงจร ไม่ต้องพึ่งพาหาซื้อปลาทูนาจากบริษัทอื่นที่มีกองเรือจากประเทศหมู่เกาะอื่นๆส่งปลาให้ แต่บริษัทของพิทักษ์ต้องซื้อปลาจากบริษัทเหล่านั้น อย่างบริษัทปลาที่เมืองเกาสงในไต้หวัน หรือเมืองหนิงโปในมณฑลฟูเจี้ยนของประเทศจีน พ่อของพิทักษ์เคยขอซื้อปลาจากโรงงานแห่งนี้ในฟิลิปปินส์ แต่เขาปฏิเสธ เพราะปลาที่จับได้เขาผลิตลงกระป๋องจนหมด ไม่เหลือไว้ขายให้ผู้อื่น
เรือล่องออกไปไกลจนมองไม่เห็นฝั่ง ไม่มีแผ่นดินใดๆ นอกจากแผ่นน้ำที่กว้างสุดลูกหูลูกตาไปจรดแผ่นฟ้ากว้างสว่างสดใส มีแต่น้ำและฟ้า พิทักษ์อยู่ในเรือลำใหญ่ เห็นเรือลำอื่นๆแล่นสวนไปมา
หนุ่มไทยเป็นคนนอบน้อม อัธยาศัยดี พูดจาถ่อมตัว เป็นที่เอ็นดูของกัปตันเรือหรือไต้ก๋งวัยพ่อนามว่า “อะมาดิอุส” ชื่อนี้มีความหมายว่า “เป็นความรักของพระเจ้า ไต้ก๋งนับถือคริสต์คาทอลิกอย่างคนฟิลิปปินส์ทั่วไป เพราะประเทศเคยเป็นอาณานิคมของสเปนมาก่อน จึงนับถือพระเยซูเจ้าตามผู้มายึดครอง นักบวชมาวางรากฐานศาสนาคริสต์จนหยั่งรากลึกแน่นบนหมู่เกาะฟิลิปปินส์ กัปตันเรือรูปร่างล่ำเจ้าเนื้อตามประสาคนสูงวัย เส้นผมเหลือน้อยบนศีรษะ เป็นคนเจ้าระเบียบและเข้มงวดกับลูกเรือ ขณะที่พูดคุยผู้สูงวัยมักให้ความรู้กับผู้อ่อนวัยกว่า ชอบเล่าเรื่องประสบการณ์การเดินเรือให้ฟัง
“ตอนนี้เรือของเรากำลังจะแล่นถึงเส้นศูนย์สูตรแล้ว” กัปตันอะมาดิอุสพูดขึ้นขณะสายตาจ้องมองบนหน้าปัดทรงกลมแสดงพิกัดตำแหน่งของเรือ
พิทักษ์ตื่นเต้น เขายังไม่เคยบินข้ามเส้นศูนย์สูตรลงไปทางซีกโลกใต้มาก่อน ส่วนมากวนเวียนอยู่ทางโซนเหนืออย่างยุโรป อเมริกาและประเทศจีน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะข้ามเส้นศูนย์สูตรบนเรือประมงลำนี้
ไต้ก๋งมองไปที่หน้าจอเพื่อหาสัญญาณของกลุ่มปลาทูนาฝูงใหญ่ โซนาร์บอกความหนาแน่นของฝูงปลากลุ่มก้อนมหึมาในทะเลลึก อะมาดิอุสยิ้มน้อยๆด้วยความกระหยิ่มใจ เจ้าของโรงงานปลากระป๋องต้องพึงพอใจยิ่งนัก
“เดี๋ยวนี้มีเครื่องทันสมัยช่วยจับปลาได้มากและง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย เราเช่าสัญญาณจากดวงเทียม ใช้เรดาร์หาตำแหน่งปลา แล้วยังมีเครื่องกระตุ้นปลาขึ้นมาให้จับแต่โดยดีอีกด้วย” กัปตันบอก
“สัญญาณบอกว่าข้างหน้าโน่นมีฝูงปลาหนาแน่น เข้าไปใกล้เตรียมลงอวน” กัปตันสั่งเสียงเข้ม
พิทักษ์รู้สึกตื่นเต้นกับจอเรดาร์ที่เห็นความเคลื่อนไหวของฝูงปลา ในใจนึกฮึกเหิม เร่งให้เรือแล่นตามไปจับปลาทูนาฝูงใหญ่นั้นให้ได้ เขานึกถึงเนื้อปลาแต่ละตัวตัดเป็นชิ้นเล็กๆลงในกระป๋อง แล้วส่งออกไปยังขายยังปลายทางทั่วโลก นั่นหมายถึงผลกำไรมากมายที่เป็นตัวเงิน
“ปลาทูนารูปร่างเพรียวคล้ายกระสวย ว่ายน้ำเร็วมากเหมือนจรวดเลย” กัปตันเปรยขึ้น
“ยังไงก็ต้องจับมันให้ได้” พิทักษ์พูดเสียงหนักแน่นและมั่นใจ
เมื่อไปถึงพิกัดที่เรดาร์บ่งบอก ลูกเรือล้วนเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์รูปร่างกำยำแข็งแรงลงอวนลอยอย่างรู้งานและรู้หน้าที่ของตัวเอง จะไม่ยอมปล่อยให้ปลาทูนาฝูงใหญ่นี้หายไปเป็นอันขาด เมื่อเหยื่อหลงเข้าในอวนล้อมแล้วก็ปิดก้นอวนทันที พอยกอวนขึ้นและเทปลาออกมา ปลาทูนากองเต็มไปทั่วลำเรือ ไม่รอช้าเอาปลาทูนาดองน้ำเกลือก่อนเก็บเข้าไปในห้องแช่แข็งทันทีเพื่อรักษาสภาพของเนื้อปลา ไม่ให้เน่าเสีย
กลับจากฟิลิปปินส์ในครั้งนั้นพิทักษ์ยังติดต่อพูดคุยกับกัปตันอะมาดิอุสผ่านทางวอตส์แอปป์เรื่อยมา ถามไถ่ถึงปริมาณปลาทูนาในทะเล แทบทุกครั้งไต้ก๋งมักอยู่ในเรือกลางมหาสมุทร
3.
พ่อส่งลูกชายให้ไปเรียนรู้และหาประสบการณ์แล้ว ใช่ว่าจะจบเพียงเท่านั้น ยังมีโจทย์และแบบฝึกหัดที่พิทักษ์ต้องแก้อีกมากมาย ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัวอย่างในวิชาคณิตศาสตร์ แม่มีส่วนบอกเล่าเรื่องราวให้ลูกชายที่จะเป็นผู้สืบทอดกิจการของครอบครัวฟังด้วย ช่วยกันประคับประคองกันไป
“ปลาทูนาตัวนึงจะหั่นหรือแล่ออกมาอย่างไรต้องคิดเสียก่อน และแต่ละชิ้นจะหั่นลงกระป๋องให้ได้มากที่สุดอย่างลงตัว ไม่ให้เสียเนื้อปลาหรือเป็นเศษๆ จะมาหั่นตามใจชอบไม่ได้ แม่เป็นช่างตัดเสื้อมาก่อน ก่อนตัดเย็บต้องคิดเสมอว่าจะวางแพทเทิร์นบนผ้าอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียเนื้อผ้าไปโดยไร้ประโยชน์ การตัดเนื้อปลาเป็นชิ้นๆก็คล้ายๆกัน”
พ่อแม่ผ่านเรื่องราวรู้ร้อนรู้หนาวมาก่อน ได้เรียนรู้กับปู่ย่า เขาเองต้องมาสานต่อเก็บเกี่ยวเพื่อจะส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน
“ตอนแม่แต่งงานมาเป็นสะใภ้ ย่าเอ็งก็สอนแม่ไว้ไม่น้อย ต้องจดจำและเอามาใช้ ปลาทูนาตัวโตเรียวยาวหนักกว่าสี่สิบห้าสิบกิโลที่เราซื้อมาทำปลากระป๋อง เราเน้นที่เนื้อเป็นสำคัญ แต่ส่วนอื่นที่ไม่ใช่เนื้อและจะทิ้งไป มันน่าเสียดายมาก ทุกอย่างเป็นตัวเงินทั้งนั้น” แม่บอกลูกชายที่ตั้งใจฟัง
“อย่างหัวปลายังมีเนื้อที่แล่ออกมาทำอาหารได้ ทำหัวปลาหม้อไฟหรือข้าวต้มหัวปลาอร่อยมาก พ่อเอ็งชอบกิน หรือจะเอาหัวปลาขายทิ้งเป็นเศษอาหาร เลือดปลามีแร่ธาตุเหล็กและสังกะสี ขายให้โรงงานอื่นเอาไปทำเป็นอาหารแมว บางโรงงานก็มารับซื้อก้างปลาออกไปทำเป็นเศษปลาป่นเอาไปเป็นอาหารเลี้ยงปลา เครื่องในขายไปเป็นเหยื่อตกปลา มีคนมารอซื้อถึงที่ น้ำนึ่งปลาก็ทิ้งไม่ได้ เอาไปทำซีอิ๊วหรือเครื่องปรุงรสได้ ทุกอย่างในตัวปลาทูนาสามารถแปลงเป็นเงินได้หมด” แม่พูดช้าๆชัดทุกถ้อยคำ
“เราต้องใช้ประโยชน์สูงสุด อย่าใช้อย่างทิ้งขว้างไม่เห็นคุณค่าราคาของมัน กว่าปลาจะเกิดเป็นตัว มันต้องหาอาหารกินและว่ายอยู่ในทะเลน้ำลึกจนเติบใหญ่ ผ่านวันเวลามาหลายปี มันเป็นหนึ่งในปลาที่มีค่ามากที่สุดในทะเล เลี้ยงคนทั้งโลกเชียวนา”
แรกๆพิทักษ์ไม่เคยรู้ว่าทุกส่วนของปลาทูนาจะมีคุณค่าและใช้บริโภคได้ทั้งหมด เขาเห็นปลาทูนามาแต่เด็ก เติบโตมากับโรงงานปลากระป๋อง ไม่เคยนึกสนใจ นอกจากเรียนหนังสือไปวันๆ แบมือขอเงินพ่อแม่ซื้อของที่อยากได้ มาถึงวันนี้ได้รับรู้เรื่องราวมากมายของปลาทูนาที่มีส่วนช่วยให้เขาเติบใหญ่และอิ่มปากอิ่มท้อง พิทักษ์รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณปลาทูนาอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน
4.
หลังๆมานี้เกิดวิกฤตปลาทูนาที่เคยจับได้มากมายกลับลดน้อยถอยลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กลายเป็นปัญหาที่โรงงานกระป๋องหาซื้อปลาไม่ได้ ผู้ค้าสั่งเข้ามา แต่ไม่อาจผลิตส่งไปได้ตามต้องการ พิทักษ์ติดต่อที่บริษัทขายปลาทูนาที่เกาสงและหนิงโป เขาก็ไม่มีปลาขายให้ ต่างรุมกันแย่งซื้อจนราคาปลาทูนาพุ่งสูงขึ้นมาเหมือนอยู่ในตลาดหุ้น ความต้องการมีมากเกินกว่าปลาที่มีเพียงหยิบมือเดียว
พิทักษ์โทรวอตส์แอปป์ไปคุยกับกัปตันอะมาดิอุส ไต้ก๋งอยู่ในเรือกลางมหาสมุทรอย่างเคย
“ตอนนี้เราอยู่ในใกล้เส้นศูนย์สูตรที่นายเคยมากับเรือลำนี้” เขาพูดเสียงดังแข่งกับลมโบกพัดแรงตึงตังรัวๆเป็นระลอกไม่ยอมหยุดเหมือนคนโกรธกันและเถียงกันไม่ยอมจบง่ายๆ
พิทักษ์ได้ยินเสียงลมนั้นด้วย เขาพอจะรู้สึกถึงไอของลมร้อนนั้นได้ไม่ลืม
“เดี๋ยวนี้นับวันลมพัดแรงเหมือนจะเป็นพายุเลย นี่แหละโลกร้อนโลกเดือดแล้ว ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป คงโทรมาถามเรื่องปลาทูนาล่ะสิ” กัปตันรู้ทันเพราะเรื่องปลาลดน้อยลงเป็นปัญหาของเจ้าของโรงงานที่กำลังปวดหัวและแก้กันไม่ตก แม้กระทั่งเจ้าของเรือก็ยังโทรมาถามเช้าเย็นหลังอาหารสามเวลาว่าจับปลาได้มากน้อยเท่าไหร่ พอบอกว่าจับได้ไม่มาก ดูเจ้าของจะไม่พอใจอารมณ์เสียและหงุดหงิดทันที
“ที่ผ่านมาบางปีก็มีปลาเยอะมาก บางปีปลาก็หายไป แล้วอีกปีก็กลับมามีมากเหมือนเดิม แต่นี่ปลาลดน้อยหายไปจากเมื่อก่อนเยอะมาก” อะมาดิอุสพูดตามตรงจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
พิทักษ์ตามข่าวเรื่องโลกร้อนหรือโลกเดือดผ่านมาทางสื่อสังคมหรือโซเชียลมีเดีย เรื่องโลกร้อนหรือโลกเดือดเป็นปัญหาวิกฤตที่คนบนโลกกำลังเผชิญ อุณหภูมิสูงขึ้นเพราะการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและโรงงานใหญ่ๆทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วขึ้น น้ำจืดเพิ่มมากขึ้น การไหลเวียนของน้ำในทะเลเปลี่ยนไปทำให้มีผลกับกระแสน้ำสายต่างๆในทุกมหาสมุทร นำไปสู่ภัยพิบัติ ระบบนิเวศได้รับผลกระทบรุนแรง สัตว์น้ำต่างๆในทะเล...รวมทั้งปลาทูนาที่ลดลงฮวบฮาบจนน่าใจหาย
“รู้หรือยังว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนือที่กรีนแลนด์กำลังละลายเร็วกว่าที่ควรจะเป็นเพราะโลกร้อน ทำให้กระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกเปลี่ยนไป ปลาทูนาทางนั้นก็ลดหายไปด้วย ทะเลทางเหนือของรัสเซียที่เคยเป็นน้ำแข็ง ตอนนี้ละลายจนเดินเรือได้แล้ว” ไต้ก๋งชอบคุยกับพิทักษ์ เอ็นดูเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง เขาชอบในอัธยาศัยความนอบน้อมและให้ความเคารพผู้ใหญ่ของชายหนุ่มรุ่นลูก
“ครับ เห็นเป็นข่าว เขาจะจัดประชุมใหญ่ถกกันและจะแก้ปัญหาโลกร้อน” พิทักษ์บอก
“ทวีปแอนตาร์กติกาที่ขั้วโลกใต้ก็มีปัญหาเดียวกัน ธารน้ำแข็งทเวตส์ก็ละลายแตกออกมา ทำให้น้ำท่วม อย่างประเทศตูวาลูที่เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังจมน้ำไร้ที่อยู่เพราะโลกร้อน อีกหน่อยก็ถึงคราวน้ำท่วมเมืองมานิลาและก็ถึงกรุงเทพฯด้วย” กัปตันพูดหยอกๆแกมเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ต่างจากคลื่นลูกโตๆโยนตัวไปมากับเสียงลมพัดดังโหวกเหวกเอะอะโวยวายเหมือนทะเลาะกัน
“อย่าพูดเป็นเล่นไป นักวิทยาศาสตร์บอกว่าจะเกิดน้ำท่วมจริงๆกับเมืองใหญ่ในโลกนี้” พิทักษ์ว่า
“เดี๋ยวก่อน มีสัญญาณปลาทูนาฝูงนึง ดูแล้วไม่มากเหมือนก่อน” กัปตันเปลี่ยนเรื่องทันที
พิทักษ์จำได้ว่าครั้งแรกที่ติดเรือไปกับกัปตันอะมาดิอุส พอเห็นโซนาร์บอกความหนาแน่นของฝูงปลาทูนา ใจของเขาฮึกเหิมร้องบอกให้ตามจับให้หมด แต่ครั้งนี้ความรู้สึกเช่นนั้นหายไป เขาอยากให้ปลาทูนาฝูงนั้นว่ายให้เร็วราวติดจรวด...ว่ายหนีไปให้สุดขอบมหาสมุทรที่มนุษย์ตามไปจับมันไม่ได้ ว่ายดำดิ่งให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้ อย่าตกเป็นเหยื่อของเครื่องกระตุ้นให้พวกมันว่ายขึ้นมาติดอวนล้อม
“ว่ายไปให้ไกลที่สุด...สุดแผ่นน้ำ ว่ายดำให้ลึกที่สุดจนคนตามจับไม่ได้” พิทักษ์ร้องบอกเชียร์ปลาทูนาฝูงนั้นอยู่ในใจ มันอาจเป็นปลาทูนาฝูงสุดท้ายของโลกก็ได้
5.
“ตกลงที่สั่งปลากระป๋องอีกห้าตู้จะได้มั้ย” เสียงของโมเชดังมาจากประเทศอิสราเอล
“เมื่อวานราไบจาคอบได้ตรวจสอบอาหารตามหลักโคเชอร์เรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งเพียงตู้เดียว”
“อะไรกัน ทำไมไม่ได้ตามที่สั่งไว้” อีกฝ่ายเริ่มหัวเสีย น้ำเสียงบอกไม่พอใจ
“หาปลาไม่ได้ครับ” พิทักษ์พูดตามจริง
“อย่างนั้นเราคงต้องสั่งจากที่อื่น” โมเชบอกเสียงกร้าว “ส่งตู้ที่เสร็จแล้วมาก่อนเลย”
พิทักษ์ไม่โต้เถียง ด้วยรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตอนนี้โรงงานอื่นก็ขาดแคลนปลาทูนา และเขาก็ไม่ได้ทำการค้ากับโมเชเพียงเจ้าเดียว ยังมีบริษัทอื่นๆอีกที่เขาต้องปันส่วนไปให้ ชายหนุ่มมั่นใจว่าอย่างไรเสียโมเชคงไม่ตัดเป็นตัดตายกับโรงงานของเขาเป็นแน่
6.
หมู่เกาะมัลดีฟส์ บริเวณเส้นศูนย์สูตร มหาสมุทรอินเดีย
ท้องฟ้าสีครามสวยสว่างเจิดจ้าจรดกับผืนน้ำสะอาดราวกระจกใสกว้างไกลสุดสายตาแล น้ำกระเพื่อมส่งเสียงอ่อนหวานเบาๆเหมือนจะทักทายหยอกล้อกับท้องฟ้า แดดทอแสงแรงร้อนจนเหงื่อซึม
พิทักษ์ติดเรือชาวประมงออกไปตกปลาทูนา เขาลอยเรือในจุดที่ฝูงนกบินลงมาโฉบกินปลา ปลาทูนากลุ่มใหญ่มาว่ายวนเวียนอยู่แถวๆนั้น ในมือชาวประมงผิวคล้ำแดดถือเบ็ดคันยาว ตะขอปลายเบ็ดติดเหยื่อพร้อม จากนั้นก็โยนเหยื่อไปบนผิวน้ำเพื่อล่อ “เหยื่อ” อีกกลุ่มที่จะมาติดกับ ฝูงปลาทูนาสับสนระหว่างเหยื่อล่อกับตะขอ แล้วลูกเรือก็ตวัดเบ็ดพร้อมปลาทูนาขึ้นมาที่ท้องเรืออย่างง่ายดาย แล้วตวัดเบ็ดลงทะเล...และตวัดขึ้น หนุ่มลูกเรือห้าคนตวัดเบ็ดขึ้นลงจับปลาจนเต็มลำ แม้จะต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงจะได้ปริมาณปลาจับด้วยอวนล้อมหนึ่งครั้ง พิทักษ์พอใจการจับปลาทูนาด้วยวิธีใช้เบ็ดอย่างพื้นบ้านเสียมากกว่า เพราะเป็นการทำประมงที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับมหาสมุทร เขาเคยเห็นชาวประมงใช้อวนลากไปตามผิวน้ำ มีสัตว์น้ำที่ไม่ต้องการติดมา อย่างปลาฉลาม ปลาโลมา เต่าและสัตว์น้ำอีกหลายชนิด ซึ่งเป็นการทำลายสัตว์น้ำสายพันธุ์อื่นๆ
น้ำทะเลกระทบแสงแดดส่องประกายวิบวับ ชายหนุ่มเหมือนได้ยินเสียงทะเลส่งสัญญาณและบอกกับคนเราว่า...สักวันหนึ่งปลาอาจจะหมดจากท้องทะเลก็ได้ หากคนเรายังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักล่าที่ทำลายระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมไม่หยุดหย่อน เราต้องฟังและยอมรับมัน ทะเลจะได้มีทรัพยากรให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อๆไป
พิทักษ์นึกออกแบบกระป๋องปลาทูนารุ่นใหม่ด้วยตัวเอง อุตสาห์ร่ำเรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์มา อย่างน้อยขอใช้วิชาความรู้มาออกแบบสักครั้ง นึกถึงภาพทะเลจรดท้องฟ้าและปลาทูนาตัวเรียวยาวอวบอ้วนกับครีบสวยงาม ข้างกล่องจะพิมพ์คำว่า “Pole and Line” เป็นการบอกให้ผู้บริโภครับรู้ว่าปลาทูนาในกระป๋องจับด้วยการใช้เบ็ดตวัด ทั้งยังบอกที่มาของทะเลแห่งนั้นด้วย
เขายิ้มน้อยๆด้วยความหวังเต็มเปี่ยมท่ามกลางผืนน้ำจรดผืนฟ้ากว้างไกล