406

เครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้ (สมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน) จังหวัดจันทบุรี

“คนเมืองจันท์สร้างสัมพันธ์พลิกฟื้นน้ำ ป่า คืนรากแก้วสู่ดิน”


การพัฒนาเมืองจันทบุรี ได้ดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ เป็นจุดเปลี่ยนป่าชายเลนแปรสภาพเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำ ป่าธรรมชาติกลายเป็นป่าผลไม้ที่ต้องการน้ำสูง ความชุ่มชื้นในดินหายไป และการเผชิญกับความผันผวน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก่อมลภาวะในพื้นที่มากขึ้น คนเมืองจันท์กลุ่มหนึ่งตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้และได้มารวมตัวกันเพื่อหาทางฟื้นฟู แก้ไขปัญหา และเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้น ภายใต้ชื่อ “เครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้” (สมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน) ที่มีเป้าหมายร่วมกัน คือ ปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้ว เพื่อฟื้นฟูรักษาระบบนิเวศป่าให้คงอยู่ ใช้กลยุทธ์ทำงานแบบเครือข่ายเหมือนรากที่แตกแขนงและแผ่ขยาย ช่วยกันปลูกต้นไม้ยืนต้นที่มีรากแก้วแซมในพื้นที่สวนผลไม้ สวนยางพารา ที่สาธารณะ หรือพื้นที่โดยรอบบ้าน เพื่อฟื้นฟูตาน้ำ ให้ดินอุ้มน้ำ บ่อน้ำไม่แห้ง หล่อเลี้ยงน้ำในแม่น้ำ ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจและเป็นต้นแบบการขยายผลในวงกว้างในจังหวัดจันทบุรี  เกิดการทำงานร่วมกันหลายภาคส่วน ขยายสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ


คืนรากแก้วสู่ดิน

จังหวัดจันทบุรีเคยได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญได้แก่ แร่ธาตุ ป่าไม้ และแหล่งน้ำ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการตัดถนนทางหลวงสาย 317 เชื่อมสู่ภาคอีสานในปี 2512-2513 ทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามา พื้นที่ป่าถูกบุกรุก จากป่าธรรมชาติสู่ป่าผลไม้ที่ต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาล กลายเป็นป่าที่ไม่สร้างน้ำ ไม่เก็บน้ำ ขณะที่ป่าชายเลนกลายเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำ ภูมิอากาศเปลี่ยน ฤดูกาลเปลี่ยน คนจันทบุรีต้องประสบปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งซ้ำซากเรื่อยมา จากวงสนทนาของคนเมืองจันท์กลุ่มเล็ก ๆ ที่ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ลงมือปฏิบัติด้วยการปลูกไม้ยืนต้น ไม้ท้องถิ่นที่มี “รากแก้ว” (ตะเคียน ยางนา) ผสมผสานในพื้นที่สวนผลไม้ของตนเอง รวมถึงการปกป้องฟื้นฟูรักษาผืนป่าเดิมให้คงอยู่ ฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรมให้คืนความอุดมสมบูรณ์ นำมาซึ่ง “เครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้ (สมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน)” ที่มีแนวคิดและเป้าหมายการทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มและขยายพื้นที่ปลูกต้นไม้ไปสู่ป่าต้นน้ำได้อย่างยั่งยืน

 

ความโดดเด่นของผลงาน “รางวัลลูกโลกสีเขียว” ประเภทชุมชน ครั้งที่ 18 ปี 2560-2561

การรวมตัวของกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพใน จ.จันทบุรี เพื่อฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์สู่แผ่นดินบ้านเกิด การสร้าง “เครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้ (สมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน)” ที่ทำงานร่วมกัน“ต่างกรรม ต่างวาระ” เพื่อแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ การตั้งวงคุยกันเป็นจุดเริ่มต้นของการอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าด้วยแนวคิด “ปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้ว คืนรากแก้วสู่ดิน ให้รากแก้วหยั่งลึกลงในใจของคนเมืองจันท์” ปลูกในพื้นที่ตนเอง ปลูกเป็นกลุ่ม เป็นแปลง ปลูกแซมในสวนยางพารา สวนผลไม้ หรือปลูกรอบ ๆ ที่ดินตามความเหมาะสม การปลูกไม้ใหญ่ ไม้ยืนต้นแซมลงไป ไม่ใช่นวัตกรรมที่แปลกใหม่ แต่เป็นการเรียนรู้จากธรรมชาติเพื่อรักษาความชุ่มชื่นในดิน โดยการปลูกต้นไม้ยืนต้นในสวนอย่างน้อยร้อยละ 30 ของพื้นที่ ช่วยฟื้นฟูตาน้ำด้วยการ ให้ดินอุ้มน้ำ ให้บ่อน้ำมีน้ำ ให้มีน้ำในแม่น้ำ เพื่อใช้ในการเกษตร ทำสวนผลไม้ เกิดเป็นความรู้ใหม่ ๆ ต้นกล้าทุกต้นที่ปลูกจะเจริญเติบโตเป็นไม้ใหญ่ได้ ต้องอาศัยการดูแล การสังเกตความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ การจดบันทึกข้อมูลเพื่อขยายความรู้ให้กับสมาชิกเครือข่ายจากรุ่นสู่รุ่น

 

การปรับเปลี่ยนหลังจากได้รับ “รางวัลลูกโลกสีเขียว” ประเภทชุมชน ครั้งที่ 18 ปี 2560-2561

“รากแก้วหยั่งลึกในใจคน” ได้ขยายการอนุรักษ์ รักษาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าได้อย่างสมบูรณ์ สร้างคนและแนวร่วมเครือข่ายในการอนุรักษ์ รักษา ฟื้นฟู ทั้งหน่วยงานราชการต่าง ๆ เช่น อบต.ฉมัน รวมถึงโครงการเรดด์พลัส (REDD Plus) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เกษตรตำบล เกษตรอำเภอ ภาคประชาชน และภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญในการปลูกต้นไม้ รักษาไม้ใหญ่ในพื้นที่ของตนเอง สามารถคงสภาพและเพิ่มความสมบูรณ์ของต้นไม้ในระบบนิเวศ เป็นแหล่งอาหารของคนและสัตว์ เพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการป้องกันภัยธรรมชาติ โดยแนวคิดการปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้ว เชื่อมโยงกับการรักษาน้ำ การฟื้นฟูตาน้ำ การเพิ่มน้ำต้นทุนที่เอื้อประโยชน์และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวสวน รวมถึงการปลูกไม้ใหญ่ร่วมกับพืชเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และพื้นที่ป่าให้เพิ่มขึ้น

 

ฟื้นคืนสภาพและรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

กระบวนการทำงานที่สอดคล้องกับแนวคิด 3 ส. คือ ส่งเสริมคนทำงานอนุรักษ์ ส่งเสริมศักยภาพสีเขียว และสื่อสารความรู้แบบเน้นจำ ย้ำเตือนให้สมาชิกเข้าใจคุณค่าความสำคัญของธรรมชาติ ด้วยวิธีการธรรมชาติช่วยธรรมชาติ การปลูกไม้ที่มีรากแก้วเพื่อสร้างป่า ให้ป่ามีน้ำ สู่การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดการกับปัญหาทั้งในอดีตและอนาคต การเปลี่ยนถ่ายโครงสร้างการทำงาน ประธาน กรรมการบริหารจัดการสมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของเครือข่ายจากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นระยะเวลากว่า 27 ปี เครือข่ายเกิดการขยายตัวและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานที่หลากหลายจากแกนนำเครือข่าย 12 คนจาก 6 อำเภอ เป็น 23 คนจาก 7 อำเภอประกอบด้วย อ.เมืองจันทบุรี อ.แหลมสิงห์ อ.ขลุง อ.มะขาม อ.ท่าใหม่ อ.เขาคิชฌกูฎ และ อ.สอยดาว เช่น การทำงานกับหน่วยงานราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มนักศึกษา บ้าน วัด โรงเรียน ชาวบ้าน และเยาวชน ในการปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้วในพื้นที่ตนเอง ป่าสาธารณะ ให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ “ป่าสร้างน้ำ” รวมถึงการบูรณาการเพื่อส่งเสริมการปลูกต้นไม้ เช่น การเพิ่มพื้นที่ป่าจากการเป็นสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์โดยสมาชิกทุกคนต้องปลูกต้นไม้คนละ 2 ต้น ในพื้นที่ของตนเองเพื่อเป็นการขยายผลการปลูกต้นไม้ให้กว้างขวางเพิ่มมากขึ้น

การจัดทำแผนการทำงานร่วมกันของสมาคมฯ กับหน่วยงานระดับจังหวัด สถาบันการศึกษา วัด และชุมชนในการผลักดันให้เกิดการอนุรักษ์ฟื้นฟู การปลูกต้นไม้ เช่น ความร่วมมือกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดจันทบุรี จัดทำโครงการสวนรุกขชาติจันทบุรี (ทุ่งเพล) โดยมีเป้าหมายในการปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้ว 1 ล้านต้น ซึ่งเฟสที่ 1 ปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้วไปแล้ว 1 แสนต้น การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการปลูกต้นไม้แบบต่าง ๆ ของสมาคมเพื่อขยายผล เช่น การปลูกไม้ท้องถิ่นแบบเชิงเดี่ยว ปลูกไม้ท้องถิ่นหลายชนิดผสมผสาน การปลูกไม้ท้องถิ่นแซมในสวนยางพาราหรือสวนผลไม้ รวมถึงชุดความรู้ที่เป็นแนวคิดแรงบันดาลใจในการฟื้นฟูระบบนิเวศ จำนวน 6 ชุด ประกอบด้วย เล่มที่ 1 “คืนรากแก้วสู่ดิน : ของใคร ของเรา” เล่มที่ 2 “คืนรากแก้วสู่ดิน : รากแก้วคุ้ม ตาน้ำคืน ผืนดินคง” เล่มที่ 3 “คืนน้ำ สู่แม่น้ำ” เล่มที่ 4 “คืนรากแก้วสู่ดิน : ต้นไม้เป็นนิเวศ ของ ดิน น้ำ อากาศ” เล่มที่ 5 “ธรรมชาติบอกเตือนอะไรเรา” และเล่มที่ 6 “คืนรากแก้วสู่ดิน ที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ มีความชุ่มชื้นมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน จ.จันทบุรี จึงได้นำแนวทางการคืนรากแก้วสู่ดินบรรจุไว้ในแผนงาน เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมเกษตรกร ในรูปแบบการปลูกต้นไม้ออมทรัพย์ การปลูกไม้ใช้หนี้

เครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้ (สมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน) ร่วมเป็นคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม จ.จันทบุรี ในการวิพากษ์ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (ปี 2550-2554) โดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจังหวัดจันทบุรี รวมถึงสมาชิกเครือข่ายเข้าร่วมโครงการจันทบุรีมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำภายใต้โครงการสร้างความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในระดับพื้นที่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมภายในชุมชนโดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนภายใต้แนวทางการเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ การปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ต้นไม้และป่าที่สมบูรณ์ทำหน้าที่ซับและกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ ช่วยสำรองน้ำไม่ให้ขาดแคลนอย่างรุนแรง การปลูกต้นไม้คืนรากแก้วสู่ดิน จึงช่วยให้สวนผลไม้เมืองจันท์ยังให้ผล สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตดีต่อ ๆ ไปได้

 

เครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้ (สมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน): จ.ปราจีนบุรี

ประสานงาน : นายไพฑูรย์ โพธิพัฒน์ นายกสมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน

เลขที่ 7/2 หมู่ 6 ตำบลคมบาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี  22000 โทร. 061-919-8249 หรือ 097-651-1598

สมาชิกกลุ่ม : จากเครือข่ายหลากหลายสาขาอาชีพ ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรประสาสังคม และภาคประชาชนในจังหวัดจันทบุรี

พื้นที่ดำเนินการ :  มีเครือข่ายในพื้นที่รวม 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองจันทบุรี อ.ท่าใหม่ อ.ขลุง อ.แหลมสิงห์ อ.มะขาม
อ.เขาคิชฌกูฎ และ อ.สอยดาว

ระยะเวลาในการอนุรักษ์: เริ่มดำเนินกิจกรรม ปี พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบัน


406