ชุมชนบ้านหาดปู่ด้าย จังหวัดลำปาง
“ฟื้นป่า รักษาน้ำ สร้างความร่วมมือการอนุรักษ์”
ชุมชนบ้านหาดปู่ด้ายเป็นชุมชนเกษตรกรรมเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำวัง ในอดีตต้องเผชิญกับการบุกรุกใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อย่างหนัก ตั้งแต่การทำสัมปทานไม้ การตัดไม้เผาถ่าน และการทำเหมืองแร่ฟอสเฟต ทำให้ป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติ คนเริ่มอพยพย้ายถิ่นออกไปหากินในเมืองใหญ่ ทิ้งบ้านเรือนครอบครัว ปัญหาที่เกิดขึ้นกระตุ้นให้ นายสวง อินทิ และแกนนำชาวบ้าน ร่วมกันคิดเพื่อแก้ไข หาทางออกก่อนที่ทุกสิ่งจะล่มสลาย
การดำเนินการเริ่มจากประชาคมสร้างความตระหนักถึงผลการทำลายป่า วิเคราะห์หาสาเหตุของป่าเสื่อมโทรม นำมาสู่การต่อต้านสัมปทานเหมืองแร่ ซึ่งชุมชนได้ใช้ข้อมูลทางโบราณคดี จากการขุดค้นพบโครงกระดูก “มนุษย์เกาะคา” ซึ่งเป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์อายุไม่น้อยกว่า 500,000 ปี ในพื้นที่ แสดงถึงการกำเนิดมนุษย์และพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหารและแหล่งน้ำตั้งแต่โบราณกาล ในการต่อสู้คัดค้านการต่อสัมปทาน จนเป็นผลสำเร็จ
ชุมชนผลักดันขึ้นทะเบียนป่าชุมชนในพื้นที่รวม 4,234 ไร่ พร้อมทั้งดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พัฒนาสร้างแหล่งน้ำและบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรที่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต หล่อเลี้ยงคนบ้านหาดปู่ด้ายอย่างทั่วถึง โดยได้รับสนับสนุนจากชุมชนและหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้ยังการกำหนดเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลา ให้เป็นแหล่งวางไข่ อนุบาลปลาเล็ก เป็นการช่วยฟื้นฟูพันธุ์ปลาและคงไว้ซึ่งความหลากหลายพันธุกรรมสัตว์น้ำในลุ่มน้ำวัง
ภูมิหลังของชุมชน
มนุษย์เกาะคาและแหล่งอารยธรรมโบราณ
บ้านหาดปู่ด้าย ตั้งขึ้นราวปี พ.ศ. 2456 โดยมีชุมชนอพยพมาจากบ้านวังขอน อำเภอสบปราบ ซึ่งเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ เพราะเกิดเหตุการมีโรคระบาด (โรคห่า – ฝีดาษ) กลุ่มอพยพได้มาตั้งหลักแหล่งบริเวณที่ราบสองฝั่งแม่น้ำวัง ในระยะแรกของการก่อตั้งชุมชนยังไม่มีชื่อชุมชน ต่อมาได้มีพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ “ด้าย” ล่องเรือค้าขายไปตามแม่น้ำวัง ซึ่งสมัยก่อนนั้นแม่น้ำวังถือเป็นเส้นทางหลักใช้ในการเดินทางคมนาคมและค้าขาย พ่อค้าคนนี้ได้เกิดอาการเจ็บป่วย จึงมาพักรักษาตัวอยู่บริเวณชายหาด และได้เสียชีวิตลง ณ ชายหาดนี้ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อชุมชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนี้ว่า “บ้านหาดปู่ด้าย”
ในปี พ.ศ. 2541 นายสมศักดิ์ ประมวลกิจ นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ คือ มนุษย์โฮโมอีเรคตัส (Homo erectus) หรือมนุษย์เกาะคา ที่หาดปู่ด้าย ตำบลนาแส่ง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง มีอายุมากกว่า 500,000 ปี ร่วมสมัยกับมนุษย์ปักกิ่งและมนุษย์ชวา โดยค้นพบชิ้นส่วนกะโหลกด้านขวา ฟันหน้าข้างฟันด้ายบน ถือเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่สำคัญของประเทศไทย ชิ้นส่วนของกะโหลกดังกล่าวจัดอยู่ในสมัยไพลสโตนซีนตอนกลาง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการค้นพบเครื่องมือหินกะเทาะแบบหยาบๆ ที่สันนิษฐานว่าเป็นเครื่องมือของมนุษย์กลุ่มนี้ในเขตจังหวัดลำปางหลายแห่ง เช่น เขาป่าหนามใกล้บ้านหาดปู่ด้าย บ้านดอนมูลและบ้านแม่ทะ
จากปัญหาสู่การจัดการป่า จัดการน้ำ
ในอดีตป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติทำลายจากหลายสาเหตุ ทั้งการลักลอบตัดไม้แปรรูป เผาถ่าน จับจองทำกิน รวมถึงการทำเหมือนแร่ฟอสเฟต ประกอบกันเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จึงไม่มีการควบคุมและดูแลอย่างทั่วถึง ในเวลาไม่กี่ปีต้นไม้ใหญ่ในป่าเริ่มหมดไป ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง น้ำในลำห้วยเหือดแห้ง ไม่สามารถทำนาและทำการเกษตรอื่น ๆ ได้ตามปกติ ชาวบ้านอยู่กันยากลำบากขาดแคลน คนหนุ่มสาวทั้งชายหญิงทิ้งบ้านเรือนออกไปขายแรงงานในเมืองใหญ่ เพื่อหาเงินส่งกลับมาจุนเจือครอบครัว ชุมชนตกอยู่ในสภาพล่มสลาย เผชิญกับปัญหาทางสังคมโถมทับ ชาวบ้านเริ่มตระหนักถึงปัญหาป่าถูกทำลายและการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ช่วงที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ป่า ส่งผลให้ต่อการกำหนดนโยบาย กฎหมาย มาตรการ และระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อการอนุรักษ์ ผู้นำชุมชนนำโดย นายสวง อินทิ ร่วมกับกลุ่มแกนนำหรือคณะกรรมการหมู่บ้านปรึกษาหารือ จัดประชาคมหมู่บ้าน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาป่าและทรัพยากรถูกทำลาย ซึ่งได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ไปศึกษาเรียนรู้การจัดการทรัพยากรนอกพื้นที่ เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, ชุมชนบ้านสามขาที่เป็นชุมชนต้นแบบของการจัดการทรัพยากรน้ำซึ่งชุมชนได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวประเภทชุมชนครั้งที่ 10 และรางวัลประเภทสิปปนนท์ เกตุทัต รางวัลแห่งความยั่งยืน ครั้งที่ 16, บริษัทปูนซีเมนต์ไทย(SCG), เครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดลำปาง และสมาคมเพื่อการเรียนรู้ป่าชุมชนจังหวัดลำปาง แล้วนำความรู้และประสบการณ์มาถ่ายทอดพร้อมลงมือปฏิบัติ พัฒนาเป็นคณะทำงานจัดการป่า และตั้งกฎระเบียบการใช้ประโยชน์
ต่อมาทางราชการประกาศปิดป่าลุ่มน้ำห้วยแม่อิม ช่วยให้ป่าที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของหมู่บ้านฟื้นคืนสภาพ ในปี พ.ศ. 2552 ชุมชนยื่นจดทะเบียนเป็นป่าชุมชนตามระเบียบกรมป่าไม้ จำนวน 2 แปลง พื้นที่รวมกัน 4,234 ไร่ แบ่งเป็นแปลงที่ 1 พื้นที่ 2,541 ไร่ จัดให้เป็นพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์ พื้นที่ และแปลงที่ 2 พื้นที่ 1,693 ไร่ จัดเป็นพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์ของชุมชน โดยชาวบ้านร่วมทำกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ ได้แก่ การปลูกเสริมป่า การจัดเวรยามเฝ้าระวังและลาดตระเวน เพื่อป้องกันการบุกรุกลักตอบตัดไม้ การทำแนวกันไฟ ป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่า
ในปี พ.ศ. 2553 เกิดสภาวะแห้งแล้งทั่วไปในหลายพื้นที่ของจังหวัดลำปางและจังหวัดอื่น ๆ ทำให้ชุมชนไม่สามารถทำนาและทำการเกษตรอื่น ๆ ได้ ดังนั้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ชุมชนทุกหมู่บ้านในตำบลนาแส่ง ทั้งพระสงฆ์ ผู้นำหมู่บ้าน ครู นักเรียน เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยประจำตำบล และชาวบ้าน ช่วยกันสร้างฝายชะลอน้ำในลำห้วยแม่อิม เพื่อแก้ปัญหาน้ำ ปัจจุบันมีฝายแล้วกว่า 1,000 ฝาย นอกจากช่วยเพิ่มและรักษาปริมาณน้ำแล้ว ยังส่งผลให้ป่าบริเวณใกล้เคียงมีความอุดมสมบูรณ์
ผลจากการจัดการป่าและน้ำต่อเนื่องกว่า 30 ปี สภาพที่เคยเสื่อมโทรมกลับฟื้นคืน พืชพรรณไม้เติบโตดี และมีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ ได้จุดประกาย ขยายผล สร้างการเรียนรู้ เกิดเป็นเครือข่ายป่าไปทุกหมู่บ้านของตำบลนาแส่ง และตำบลใกล้เคียง เช่น ตำบลนาแก้ว ขณะที่มีการเตรียมคนรุ่นใหม่เข้ามาสืบทอดสานต่อเจตนารมณ์ของคนรุ่นพ่อแม่ ผ่านการทำกิจกรรม สำรวจป่า สร้างฝาย สร้างการรับรู้และความตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติให้ประโยชน์กับชุมชนและทำให้วิถีชีวิตอยู่รอดได้
ชุมชนบ้านหาดปู่ด้าย
บ้านหาดปู่ด้าย ตำบลนาแส่ง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
ประสานงาน : นายสวง อินทิ
73 หมู่ที่ 1 บ้านหาดปู่ด้าย ตำบลนาแส่ง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
เบอร์โทร : 097 961 7439
ประชากร : ชุมชนบ้านหาดปู่ด้ายมี 319 ครัวเรือน แต่อาศัยอยู่จริง จำนวน 259 ครัวเรือน มีประชากรจำนวน 860 คน
พื้นที่ดำเนินการ : พื้นที่ป่าในป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ไฮ และเป็นป่าชุมชมที่ได้จดทะเบียนไว้กับกรมป่าไม้ จำนวน 2 แปลง มีพื้นที่รวมกัน 4,234 ไร่ แบ่งเป็นแปลงที่ 1 จำนวน 3,969 ไร่ เพื่อการอนุรักษ์ และแปลงที่ 2 จำนวน 265 ไร่ เพื่อการใช้ประโยชน์
ระยะเวลาในการทำงานอนุรักษ์ : ปี พ.ศ. 2537 - ปัจจุบัน ( รวมระยะเวลา 30 ปี)
ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน :
- ป่าแห่งนี้เป็นป่าต้นน้ำในพื้นที่ทุรกันดารที่เต็มไปด้วยหินฟอสเฟตและหินลูกรัง ซึ่งการจัดการที่ได้กำหนดพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่ใช้ประโยชน์อย่างชัดเจน ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มพูนความหลากหลายของพันธุ์พืช สัตว์ป่า และเป็นแหล่งอาหารสำคัญ
- คนในชุมชนและชุมชนใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ภายใต้กติกาและการกำกับดูแลของผู้นำชุมชน
- การจัดทำฝายชะลอน้ำช่วยชะลอและกักเก็บน้ำที่เพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ด้านอุปโภคบริโภคของชุมชนบ้านหาดปู่ด้าย
- การกำหนดเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลา ให้เป็นแหล่งวางไข่ อนุบาลปลาเล็ก เป็นการช่วยฟื้นฟูพันธุ์ปลาและคงไว้ซึ่งความหลากหลายพันธุกรรมสัตว์น้ำในลุ่มน้ำวัง
- ประปาภูเขาที่รับน้ำจากขุนห้วยแม่อิมได้กระจายเข้าสู่พื้นที่พืชสวนและไร่นา โดยมีระบบการบริหารจัดการและเก็บค่าบำรุงรักษาในอัตรา 150 บาทต่อไร่ ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปรวมเป็นกองทุนน้ำประปา และเงินส่วนหนึ่งจะถูกนำกลับไปใช้สำหรับการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำที่เป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับประปาอีกด้วย
การสนับสนุนจากภาคี :
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนซ่อมแซมเส้นทางเข้าไปยังป่าชุมชน
- การท่าเรือแห่งประเทศไทย สนับสนุนสร้างฝายกึ่งถาวร จำนวน 1 ฝาย ทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้ในปริมาณที่เพียงพอต่อการปลูกข้าวเอาไว้บริโภคในครัวเรือน และการเกษตรอื่น ๆ ทำให้ชุมชนมีรายได้เพียงพอสำหรับใช้จ่าย ในครัวเรือน
- บริษัทปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ให้เข้าร่วมเป็นหมู่บ้านนำร่องตามโครงการอนุรักษ์ บำรุงและปลูกเสริมป่าชุมชน อย่างยั่งยืน
- กรมป่าไม้ สนับสนุนกล้าไม้และเมล็ดพันธุ์