• เป็นชุมชนที่อนุรักษ์ทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ครอบคลุมมิติของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และการคงอยู่ของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน จนถึงปัจจุบันอย่างน้อย 5 ปี
• เป็นชุมชนที่ใช้ความรู้ท้องถิ่นอย่างเหมาะสม คุ้มค่า ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เกิดประชาสังคม และมีการจัดการชีวิตตามปรัชญาความพอเพียง
• ในกรณีที่เป็นเครือข่ายชุมชน ต้องมีกิจกรรมที่มีความเชื่อมโยงและมีเป้าหมายร่วมกันในด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรดิน น้ำ ป่า อาทิ การอนุรักษ์ลุ่มน้ำ เป็นต้น
• ในกรณีที่เป็นชุมชนเมือง ต้องดำเนินกิจกรรมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเมือง อาทิ การดูแลรักษาระบบนิเวศเมือง การสร้างพื้นที่สีเขียวในเมือง การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในเมือง การจัดการปัญหาภาวะมลพิษด้านน้ำ อากาศ ขยะ การจัดการและอนุรักษ์พลังงาน รวมไปถึงกิจกรรมการเสริมสร้างจิตสำนึก การสร้างประชาสังคมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตวิถีพอเพียง
• ผลงานในทุกกรณีสามารถเป็นแบบอย่างเพื่อการเรียนรู้และนำไปปฏิบัติต่อไปได้

• กลุ่มเยาวชนไทยที่อายุไม่เกิน 25 ปี หรือสถาบันการศึกษาที่ดำเนินกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีกิจกรรรมสอดคล้องกับแนวทางปรัชญาความพอเพียง และเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นหรือชุมชนของตนเอง จนถึงปัจจุบันอย่างน้อย 3 ปี
• ในกรณีที่เป็นกลุ่มเยาวชนหรือสถานศึกษาในเมือง ต้องดำเนินกิจกรรมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเมือง อาทิ การดูแลรักษาระบบนิเวศเมืองการสร้างพื้นที่สีเขียวในเมือง การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการปัญหาภาวะมลพิษด้านน้ำ อากาศ ขยะ การจัดการและอนุรักษ์พลังงาน รวมไปถึงกิจกรรมการเสริมสร้างจิตสำนึก การสร้างประชาสังคมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตวิถีพอเพียง

• เป็นงานเขียนประเภท “กวีนิพนธ์สีเขียว”
• มีเนื้อหาสาระเชิงสร้างสรรค์ จรรโลงสังคม สร้างสำนึกและการตระหนักรู้ ด้านการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมมิติของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และการคงอยู่ของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
• มีกลวิธีการนำเสนออย่างมีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ (การเลือกใช้ถ้อยคำ สำนวน ลีลา ประโยค ประณีตงดงาม หรือเหมาะสมกับเนื้อหา ทำให้งานกวีนิพนธ์นั้นๆ มีคุณค่า น่าสนใจ และสามารถสื่ออารมณ์ ความคิด จินตนาการ และสร้างประสบการณ์ทางอารมณ์แก่ผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ)
• ผู้เขียนยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่ส่งผลงาน
• ผู้เขียนหนึ่งคนมีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวดได้ 1 ผลงาน
• เป็นกวีนิพนธ์ประเภทมีฉันทลักษณ์ และ/หรือไม่มีฉันทลักษณ์
• กวีนิพนธ์ประเภทฉันทลักษณ์มีความยาวไม่ต่ำกว่า 50 บท สำหรับกวีนิพนธ์ประเภท ไม่มีฉันทลักษณ์มีความยาวไม่ต่ำกว่า 10 หน้า (A4)
• เป็นผลงานที่เขียนด้วยภาษาไทยและเขียนขึ้นด้วยตนเอง มิใช่งานแปลหรือดัดแปลงจากผลงานของผู้อื่น ไม่เคยส่งประกวดที่ใด ไม่เคยเผยแพร่ และไม่เคยตีพิมพ์มาก่อนจนกว่าการประกาศผลรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 24 ประเภทงานเขียน จะสิ้นสุด
• ส่งผลงานในรูปแบบไฟล์ Microsoft Word ขนาดตัวอักษร 16 เท่านั้น ไม่รับพิจารณาต้นฉบับที่เขียนด้วยลายมือ พร้อมระบุชื่อและนามสกุลจริง และ/หรือนามปากกา พร้อมที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เขียน แนบท้ายในไฟล์ผลงาน
• ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์และกฎหมายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ในกรณีที่เนื้อหาหรือข้อเท็จจริงในผลงานที่ได้รับรางวัลมีลักษณะละเมิดกฎหมาย หากเกิดข้อพิพาททางกฎหมายไม่ว่ากรณีใดๆ
• การส่งเข้าประกวดสามารถส่งได้ดังนี้ 
  • ดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.greenglobeinstitute.com กรอกใบสมัครให้ครบถ้วน พร้อมส่งไฟล์ใบสมัครมาพร้อมกับไฟล์ผลงานต้นฉบับในรูปแบบไฟล์ Microsoft Word ขนาดตัวอักษร 16 พร้อมระบุชื่อและนามสกุลจริง และ/หรือนามปากกา พร้อมที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เขียน แนบท้ายในไฟล์ผลงาน
  • ส่งไฟล์ใบสมัครและไฟล์ผลงานเขียนมาที่ Email : greenglobe@pttplc.com โดยระบุชื่อเรื่อง “ส่งผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 24 (กวีนิพนธ์สีเขียว)"

ทั้งนี้ ผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันลูกโลกสีเขียว อาคาร 1 ชั้น 5 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 555 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 02 537 2190, 02 537 2191